จากกรณีที่ น.ส.นรีกานต์ หรือน้องหญิง ยาวิราช อายุ 19 ปี ไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งใน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนจะเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา เนื่องจากกะโหลกศีรษะแตกและสมองบวม โดย นายสุรพล หรืออ๊อฟ ดาราคำ อายุ 23 ปี ผู้ชายที่ขับรถไปส่งน้องหญิง อ้างว่าน้องหญิงได้กระโดดลงจากรถเทรลเลอร์ไปเอง แต่ผลชันสูตรเบื้องต้นจากแพทย์ระบุว่า ถูกตีด้วยของแข็งเข้าที่ท้ายทอย ก่อนตำรวจจะออกหมายจับนายสุรพล และส่งตัวเข้าเรือนจำ ขณะที่ญาติยังติดใจสาเหตุของการเสียชีวิต ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ผู้สื่อข่าวติดต่อเพื่อขอทราบข้อมมูลกับทางโรงพยาบาลการุญเวช อยุธยา ถึงกรณีของกางเกงในน้องหญิงที่ไม่มีการส่งมอบให้ญาติไป โดยทางโรงพยาบาลปฎิเสธที่จะให้ข้อมูลอยู่ระหว่างการสอบสวนของคณะผู้บริหาร
ส่วนข้อเท็จจริงจะให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทางญาติของผู้ป่วย ขอยืนยันว่าการปฎิบัติของแพทย์และพยาบาล อยู่ในจรรยาบรรณและมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือผู้ป่วยตามกระบวนการการรักษา
ส่วนที่สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ยังไม่มีการเรียกพยานหรือผู้เกี่ยวข้องในคดีมาสอบสวน ทีมพนักงานสอบสวนจากภ.จว.พระนครศรีอยุธยา รอผลตรวจทางวิทยาศาสตร์ที่ส่งไปตรวจและรอผลการชันสูตรศพอย่างเป็นทางการ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ เพื่อสรุปคดี ซึ่งการสอบสวนในของพยาบาลก่อนหน้านี้มีการเรียกสอบมาแล้ว รอให้ทางเจ้าหน้าที่พยาบาลมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนเรื่องของกางเกงใน
ทราบจากรายงานในเบื้องต้นว่า ในวันเกิดเหตุพยาบาลถอดกางเกงในออก เพื่อสวมท่อและเห็นว่ากางเกงในและกางเกงขาสั้นเปียกน้ำ จึงใส่กางเกงในแยกอีกถุง จากกางเกงขาสั้น โดยส่งถุงกางเกงในไปให้บริษัทภายนอกทำลายทิ้งไปแล้ว ส่วนกางเกงขาสั้นส่งมอบให้กับทางญาติ
ขณะที่ นายสมควร ดาราคำ พ่อของนายอ๊อฟ กล่าวว่า เรื่องเงินที่อ้างว่าเตรียมเงินเพื่อไปวิ่งเต้นคดีนี้ ตนเองและครอบครัวไม่ทราบ ไปเยี่ยมลูกเองยังไม่สะดวกเลยเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะหากไปเยี่ยมต้องฝากเงินให้ลูกเพื่อไว้ใช้จ่าย จะไปหาเงินจากไหนมา ทางครอบครัวเครียดมากที่มาเกิดเรื่องราวแบบนี้
