จากกรณี ร.ต.อ.สมพร เหล่าสิงห์ อายุ 59 ปี รองสารวัตรกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 22 อุบลราชธานี และ นายปรัชญา สำอางอินทร์ อายุ 29 ปี ชาวบ้านอำเภอเมืองอุบลราชธานี ที่ได้รับความเสียหายจากวัยรุ่นซ่า จอดรถขวางกลางถนนและใช้อีโต้สับและขว้างใส่รถยนต์จนได้รับความเสียหาย
และผู้เสียหายได้นำภาพจากกล้องหน้ารถใช้เป็นหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจ เพื่อให้ดำเนินคดีกับวัยรุ่นคนดังกล่าว โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น
ความคืบหน้า หลังจาก ตำรวจโรงพักเมืองอุบลราชธานี สอบปากคำผู้เสียหายประกอบหลักฐานภาพจากกล้องหน้ารถที่บันทึกภาพช่วงที่ชายคนดังกล่าวก่อนเหตุ เชื่อว่าผู้ก่อเหตุคือ นายพงษ์สิทธิ์ เศษวิวงศ์ชัย อายุ 22 ปี ชาวบ้านทุ่งขามเหนือ ต.หัวเรือ อ.เมืองอุบลราชธานี จึงได้ออกหมายเรียกตัวให้มาพบกับพนักงานสอบสวน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ และต่อสู้คดีตามที่ถูกกล่าวหา
โดยตำรวจได้ให้ชุดสืบสวนนำหมายเรียกตัวนายพงษ์สิทธิ์ไปที่บ้านพักบ้านทุ่งขามเหนือ แต่ทราบจากญาติว่า นายพงษ์สิทธิ์ไปพักอาศัยอยู่ในเมือง นานๆ จะกลับมาที่บ้าน จึงให้ญาติติดต่อประสานนายพงษ์สิทธิ์เข้ามาพบพนักงานสอบสวน แต่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ยอมมาพบ วันต่อมาจึงให้ชุดสืบสวนนำหมายเรียกตามไปที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งบนถนนชยางกูร ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี ที่นายพงษ์สิทธิ์ทำงานเป็น รปภ. ได้รับแจ้งจากหัวหน้านายพงษ์สิทธิ์ ได้โทรศัพท์มาลาออกจากงานไปแล้ว
ทำให้ตำรวจเชื่อว่านายพงษ์สิทธิ์ผู้ก่อเหตุมีเจตนาหลบหนี รวมทั้งมีการออกหมายเรียกให้มาพบแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ไม่ยอมมา ช่วงเย็นวานนี้จึงนำหลักฐาน พร้อมพยาน ยื่นขออนุญาตศาลแขวงจังหวัดอุบลราชธานี ออกหมายจับตัวนายพงษ์สิทธิ์ เศษวิวงศ์ชัย อายุ 22 ปี รวม 4 ข้อหาคือ ขับรถโดยประมาทหวาดเสียวไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น พกพาอาวุธมีดไปในชุมชน เมือง ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ทำให้เสียทรัพย์ และทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว พร้อมได้กระจายหมายจับไปตามสถานีต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้ช่วยจับตัวนายพงษ์สิทธิ์ วัยรุ่นซ่ารายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป