จากกรณีน้องสปาย และน้องฟอส ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต ที่เขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี ก่อนที่ตำรวจจะกดดันจนกลุ่มคนร้ายมอบตัว ซึ่งเหลือเพียง นายปัญญา หรือเสี่ยอ้วน ยิ่งดัง เจ้าของบาร์ใน จ.ภูเก็ต ที่ยังหลบหนีอยู่
ความคืบหน้าล่าสุด หลังจากนายเกียรติศักดิ์ หรือบอนด์ สุรางค์แสงมีบุญ อายุ 35 ปี สารภาพว่าเสี่ยอ้วน หลบหนีมาอยู่ที่บ้านตนเองแล้วหลบหนีไป โดยมีรถมารับตัวไป ทำให้บริเวณแนวชาวแดน จ.สระแก้ว มีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งทหารและตำรวจตรวจตราอย่างเข้มงวด โดยมีเจ้าหน้าที่ สห.ของกัมพูชา ได้นำตำรวจกองปราบปราม และฝ่ายสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 เดินทางเข้าไปยังแหล่งหลบซ่อนตัวของเสี่ยอ้วน ซึ่งอยู่ในจังหวัดบันเตียเมียนเจย ของประเทศกัมพูชา ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนไทยไปกว่า 10 กิโลเมตร
ซึ่งจากการเปิดเผยของผู้สื่อข่าวกัมพูชาทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านของแรงงานชาวกัมพูชา ซึ่งน่าจะเป็นแรงงานที่ไปทำงานในบาร์ของเสี่ยอ้วน ที่ จ.ภูเก็ต แต่ข่าวเกิดรั่วลูกน้องของเสี่ยอ้วนซึ่งเป็นชาวกัมพูชา ได้ย้ายเสี่ยอ้วนออกไปจากบ้านหลังดังกล่าวก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปถึง
ผู้สื่อข่าวกัมพูชา ยังได้เปิดเผยต่อไปอีกว่า หลังจากนั้นทำให้ข่าวได้แพร่สะพัดออกไป ทำให้ก๊วนต่างๆ ที่อยู่ในฝั่งกัมพูชาต่างควานหาตัว เสี่ยอ้วน กันจ้าละหวั่น เพื่อหวังที่จะชิงตัวมารีดค่าไถ่ และรับเงินรางวัลนำจับจากทางการไทย จากการรายงานข่าวของผู้สื่อข่าวกัมพูชา บอกว่า ขณะนี้เสี่ยอ้วนตกอยู่ในสถานะลำบาก เพราะกลัวถูกชิงตัวไปเรียกค่าไถ่ ซึ่งจากการคาดการณ์ของหลายฝ่ายคาดว่า เสี่ยอ้วน คงหลบซ่อนอยู่ไม่ไกลจากจุดเดิมมากนัก และหากถูกกดดันมากๆ จากก๊วนต่างๆ เสี่ยอ้วน อาจติดต่อขอเข้ามอบตัว
ผู้สื่อข่าวได้ตระเวนดูตามเส้นทางเลียบชายแดน พบว่า ได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ไม่ได้มีการตรึงกำลังเหมือนหลายวันที่ผ่านมา ซึ่งบริเวณแนวชายแดนซึ่งทางทหารช่าง กำลังก่อสร้างสะพานเชื่อมระหว่างบ้านหนองเอี่ยน–สทึกบท ซึ่งสะพานแห่งนี้ จะสร้างเพื่อขนถ่ายสินค้า ระหว่างฝั่งไทยไปยังฝั่งกัมพูชา ผู้สื่อข่าวได้สอบถามคนงานที่ก่อสร้างสะพาน คนงานบอกว่าไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเลยในช่วงวันสองวันนี้
ขณะที่ความคืบหน้าของคดีที่ สภ.นาจอมเทียน จ.ชลบุรี พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามคดีดังกล่าว โดยใช้เวลาในการประชุมประมาณ 1 ชม. ก่อน พล.ต.อ.สุชาติ จะเดินออกจากห้องประชุมแล้วพูดเพียงสั้นๆ ว่า มาเพียงมาดูรายละเอียดเกี่ยวกับคดีเพียงนิดเดียว ส่วนแหล่งกบดานของเสี่ยอ้วน บอกเพียงว่ารู้แล้ว ก่อนขึ้นรถตู้ตำรวจของ สภ.นาจอมเทียน ออกไปทันที
