ตำรวจโรงพักวังเจ้า อ.วังเจ้า จ.ตาก ทำการควบคุมตัว น.ส. มิว นามสมมุติ อายุ15ปี ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ มาทำการสอบสวน หลังจากที่ ก่อนหน้านี้ นาง หวาน โนนบุ อายุ54ปี ได้มาแจ้งความที่สภ.วังเจ้า ว่าเมื่อวันที่ 16สิงหาคม2561 ที่ผ่านมา มีขโมยแอบเข้าไปในบ้านของตนก่อนจะรื้อค้นทรัพย์สิน ก่อนจะได้สร้อยคอทองคำเส้นละ 1 บาทจำนวน 3 เส้น และยังขโมยเครื่องประดับต่างๆและเสื้อแฟชั่นของหลานสาวตนไป และยังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
ต่อมาหลานสาวของผู้เสียหายได้เปิด เฟซบุ๊ก พบว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งสวมเสื้อ และใส่ต่างหู คล้ายกับของตนที่หายไป ได้ถ่ายรูปคู่กับแฟนหนุ่มลง Facebook ซึ่งหลานสาวของผู้เสียหายจำทรัพย์สิน ได้ จึงได้แจ้งให้คุณยายซึ่งเป็นผู้เสียหายทราบ และ แจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาช่วยติดตามตัว
โดยทำทีติดต่อไปทางแชท เพื่อแกล้งถาม ที่มาของต่างหูและ กระเป๋าผ้า ที่อยู่ในรูปถ่ายบนเฟซบุ๊ก และ หลอกถามที่อยู่ เมื่อได้ข้อมูลชัดเจน เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงบุกไป ทำการจับกุม พบผู้ต้องหา วัย 15 ปีกำลัง เดินอยู่บริเวณหน้าบ้าน และยังสวมต่างหู ที่ขโมยมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตน และสอบถาม ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นเยาวชนหญิงวัย 15 ปี รับสารภาพว่าตนเป็นผู้ขโมยของในบ้านของผู้เสียหายจริง และตรวจค้นของกลางเป็นสร้อยคอและเครื่องประดับ ที่ขายไม่ได้ ที่ซุกซ่อนเตรียมนำไปทิ้ง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหา บอกว่า ตนเอง เคยเป็นเพื่อนกับหลานสาวของนางหวาน เคยเข้าออกบ้าน ทำให้รู้ว่าในบ้านสามารถเข้าออกได้ทางใดบ้าง จากนั้นจึงเดินไปยังประตูหน้าบ้านพบว่ากุญแจไม่ได้ล็อคี ตนจึงบิดกุญแจเปิดประตูเข้าไปในบ้าน รื้อค้นทรัพย์สินภายในบ้านอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมงโดยไม่ได้กลัวว่าเจ้าของบ้านจะกลับมาเจอ โดยทรัพย์สินที่ขโมยมา หากเป็นทอง ตนจะนำไปทยอยขาย และนำเงินมาใช้จ่าย และหากเป็นเงินสดตนก็จะนำมาใช้จ่ายซื้อข้าวของตามใจที่อยากได้
ตำรวจถามถึงเรื่องโพสต์ Facebook ผู้ต้องหาบอกว่า ไม่คิดว่า ผู้เสียหายจะจำเสื้อและของที่ตนขโมยมาได้และไม่คิดว่าตนเองจะถูกจับอีกด้วย
ผู้ต้องหาคนนี้ ยอมรับว่าขโมยของมาแล้วมากกว่า 10 ครั้ง เมื่อครั้งที่เรียนอยู่โรงเรียนเริ่มจากการขโมยของครั้งแรกคือการขโมยโทรศัพท์คุณครูที่โรงเรียนแต่ตอนนั้นครูจับได้แต่ไม่เอาเรื่อง จนกระทั่งจบชั้นป 6 และไม่เรียนต่อ ไม่มีงานทำอาศัยอยู่กับตายาย ส่วนเงินที่ขโมยมาได้ก็จะนำไปใช้จ่ายเที่ยวเล่นกับแฟนหนุ่ม
