เด็กหญิงเพียงฟ้า ภูเวียงแก้ว วัยเพียง 4 ขวบครึ่ง ต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงอยู่แต่ภายในบ้านเลขที่ 207 หมู่ 9 ต.ดงมหาวัน อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย ภายหลังจากที่ดวงตาเธอทั้งสองข้างไม่สามารถมองเห็นอะไรได้อีก
โดยเฉพาะดวงตาขวามีก้อนเนื้อปูดออกมานอกเป้าตาจนเห็นอย่างชัดเจนยาวกว่า 5 เซนติเมตร ทำให้เธอได้แต่อยู่บนเตียงนอนไม่สามารถไปไหนมาไหนได้อย่างเช่นคนอื่นๆ และต้องมีผ้ามุ้งกางคลุมไว้ตลอดเวลาเพื่อไม่ให้แมลงบินเข้าไปไต่และกัดแผลที่ดวงตา
ที่สำคัญในห้วงระยะเวลา 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมมาแทบจะไม่ได้กินอะไรลงไปในท้องเลยนอกจากน้ำเปล่าและยาต้มสมุนไพรที่ทางญาติของเธอต้มให้เพื่อหวังว่าจะหายจากอาการป่วย
นางบูแล ยงยุทธ ผู้เป็นมารดา เล่าว่ามีลูก 3 คน คนโตอายุได้ 7 ขวบแล้ว เด็กหญิงเพียงฟ้าเป็นคนที่ 3 คนที่สองเป็นคู่แฝดผู้พี่ เกิดมามีร่างกายปกติทุกอย่างกระทั่งเมื่ออายุประมาณ 2 ขวบ พบว่าที่บริเวณลูกตาข้างขวามีจุดฝ้าขาวๆ ภายในลูกตา คิดว่าเป็นเพียงฝ้าธรรมดา กระทั่งไปกินไข่นกกระทาต้มที่บริเวณโป่งน้ำร้อนแม่ขะจาน ไม่รู้ว่าน้ำแร่ส่งผลให้ออกฤทธิ์อะไรหรือไม่ หลังจากนั้นดวงตาก็เริ่มมีอาการเคืองและอักเสบ ทำให้ต้องพาไปพบแพทย์และแพทย์บอกว่าเป็นเนื้องอกในลูกตา
“หลังจากนั้นก็ได้ไปพบแพทย์อีกหลายครั้งทั้งในจังหวัดเชียงรายและจังหวัดเชียงใหม่ แพทย์รักษาไม่ได้ อีกทั้งอาการก็ยิ่งกำเริบขึ้น จากดวงตาฝ้าขาวๆ ก็กลายเป็นก้อนเนื้อบวมเปล่งออกมาและโตขึ้นเรื่อยๆ ก็พยายามไปหาหมอเก่งๆ และโรงพยาบาลทุกแห่งที่จะรักษาตาของบุตรสาวให้ได้ แต่ไม่มีที่ไหนรักษาได้ ไม่นานมานี้ทางแพทย์ได้แจ้งว่าบุตรสาวได้ป่วยเป็นมะเร็งในสมอง ไม่สามารถที่จะทำการผ่าตัดหรือรักษาอะไรได้อีก ทำได้เพียงรักษาตามอาการเท่านั้น”
นางบูแลกล่าวด้วยว่า ก็ไม่เข้าใจว่าแรกๆ แพทย์ทำไมไม่บอกบุตรสาวป่วยเป็นมะเร็ง บอกเพียงแต่เป็นเนื้องอก ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วเพราะพยายามไปหาแพทย์และโรงพยาบาลที่ตนพอจะมีกำลังพาลูกไปพบได้ทั้งหมดแล้ว เพราะจะไปโรงพยาบาลแพงๆ ก็ไม่มีเงิน ลำพังที่ผ่านมาก็เป็นหนี้ทั้งจากการกู้เงินหมู่บ้านมาทำบ้านที่พังจากพายุ ยังเป็นหนี้จากการกู้เพื่อพาบุตรสาวไปหาหมอตามโรงพยาบาลต่างๆ และไปทำงานหาเงินก็ไม่ได้เพราะไม่มีใครเฝ้าลูกสาว มีแต่พ่อเป็นผู้หาเงินเพียงคนเดียวแค่พอใช้จ่ายค่ากินไปวันๆ เท่านั้น
“แม้ตอนนี้แพทย์จะบอกว่าลูกสาวหมดหนทางรักษาแล้วต้องนอนรอวันตาย แต่ก็ยังมีความหวังที่อยากจะเห็นลูกสาวหายจากอาการป่วย อยากให้ผู้มีความรู้หรือผู้ใจบุญได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือมาช่วยรักษาโรคของบุตรสาวให้หายด้วย เพราะหมดปัญญาในการรักษาเองแล้ว เพราะไม่มีเงินหรือไม่รู้จักหมอที่พอจะรักษาโรคของบุตรสาวได้ หากใครอยากช่วยเหลือสามารถติดต่อมาได้ที่หมายเลข 06-1303-5488 ”
