เหตุการณ์เกิดขึ้นภายในซอยบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 194/5 ม.2 ต.บ้านเขว้า อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ในที่เกิดเหตุพบกองคราบเลือดจำนวนมากยาวเป็นทาง ลงไปในกอหญ้าข้างทาง ใกล้กันพบรถจักยานเด็กผู้หญิง สีชมพูล้มอยู่กลางถนน ส่วนผู้บาดเจ็บ คือ ด.ญ.ธัญลักษณ์ สลิตกุล อายุ4ขวบ สภาพใบหน้าศีรษะมีแผลฉกรรจ์ ชาวบ้านเร่งนำส่ง รพ.เป็นการด่วน
นายนพพล ซึ่งอยู่ข้างบ้านที่เกิดเหตุและเห็นเหตุการณ์เล่าว่าช่วงประมาณ 5 โมงเย็นตนเองได้กลับมาจากทำงานและได้นอนดูทีวีอยู่ภายในบ้าน ตามปกติ ขณะนั้นตัวเองได้ยินเสียง เด็กผู้หญิงร้อง ซึ่งทีแรกตนเองก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะปกติแล้วน้อง ตวงข้าว กับพี่ชายน้องธรรมโม จะปั่นจักรยานเล่นกันอยู่ภายในซอยซึ่งเป็นหลังบ้านตนเอง อยู่เป็นประจำ จนตนเองได้เดินออกมาจากภายในบ้านมาที่ถนน เห็น หมาทั้ง 3 ตัว กำลังรุมขย้ำกัดกระชาก บริเวณลำคอ หัวและโหนกแก้ม ก่อนที่ตนเองจะตั้งสติแล้วเอามีดวิ่ง เข้าไปขู่หมาทั้ง 3 ตัว ให้ออกจาก ตัวเด็กไป ก่อนที่หมาทั้ง3 จะวิ่งหนีไป ตนเองจึงรีบวิ่งเข้าดูอาการเด็ก ซึ่งดูแล้วมี แผลฉกรรจ์หลายจุด จึงตะโกนเรียกให้คน ในละแวกนั้น เข้ามาช่วยนำส่งไปโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่า น้องได้เสียชีวิตลงก่อนถึง รพ. เพราะเสียเลือดมาก
นายนพพล บอกอีกว่า โดยปกติแล้ว สุนัขทั้ง 3 ตัว นั้นมีเจ้าของและอยู่บ้านติดกันโดยเจ้าของเลี้ยงไว้ในเขตบ้านและล่ามไว้ โดยหนึ่งในนั้น เป็นสุนัขแม่ลูกอ่อนพันธุ์ไทยอยู่ด้วย และตนเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าสุนัขทั้ง 3 ตัวนั้นหลุดออกมาจากภายในบ้านและโซ่ลามออกมาขย้ำเด็กได้อย่างไร
ขณะที่ นางดารณี อายุ 5 0ปี ญาติฐานะยาย บอกว่า ตอนนี้ ครอบครัว ยังรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้ ต่างคนก็ต่างก็เสียใจ และไม่คิดไม่ฝันว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นกับครอบครัว ซึ่งในวันที่30 ก.ย.ที่จะถึงนี้ก็จะถึงวันเกิดของน้องตวงข้าวแล้ว และ ครอบครัวก็เตรียมจะฉลองครบ5ขวบ แต่น้องตวงข้าวก็ต้องมาเสียชีวิตเสียก่อน โดยน้องตวงข้าวก็ยังมีพี่ชายวัย 6 ขวบ ที่คอยเป็นเพื่อนเล่น ตั้งแต่เล็กและ 2 คน ก็มีความผูกพันกันมาก วันนี้ตนเองได้เห็นหลานชายร้องไห้ จนแทบไม่มีเสียง ที่จะพูดกับใครเพียงแต่บ่นว่า จะบวชให้น้องสาว
ส่วนในเรื่องของคดีนั้น ซึ่งขณะนี้ยังไม่มี ใครออกมารับผิดชอบ ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งเจ้าของสุนัขทั้ง 3 ตัว ก็ยังไม่ออกมาและมาร่วมงานศพน้องเลย ทั้งที่อยู่หลังบ้านกันเดินออกมาหาไม่ถึง20ก้าวก็ถึงบ้านน้อง แต่ก่อนก็เป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน ไปมาหาสู่กันตลอด และเห็นน้องหยอกล้อเล่นกันอยู่ทุกวัน ก็รู้สึกเสียใจ แต่ก็ไม่อยากจะคิดอะไรมาก ซึ่งเขาน่าจะติดธุระก็เป็นได้ แต่ก็อยากให้ ออกมาพูดคุยกันบ้าง ซึ่งตนนั้นก็อยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่เลี้ยงสุนัขที่คิดจะเลี้ยงก็ขอให้ดูแล สุนัขของตนเองดีๆ อย่าปล่อยให้ออกมา เพ่นพ่านและสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น โดย อยากให้เลี้ยงไว้ ภายในบ้านของตนอีกด้วย
ทางด้าน ตำรวจ ได้เชิญตัวพยานมาให้ปากคำและเชิญตัวนายปิยะณัฐ แดงสร้อย อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของสุนัขทั้ง 3 ตัวมาสอบสวน เบื้องต้นได้แจ้งข้อหานายปิยะนัฐ คือควบคุมสัตว์ดุหรือสัตว์ร้าย ปล่อยปละละเลยให้สัตว์นั้นเที่ยวไปโดยลำพัง ในประการที่อาจทำอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และหากมีหลักฐานเพิ่มเติมซึ่งสืบได้ว่ามีการประมาทต่อเหตุ ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มปล่อยปละละเลยสัตว์ดุ และหากมีหลักฐานเพิ่มเติมก็จะแจ้งต่อไป
