หัวอกเดียวกัน 2 หนุ่มถูกเบี้ยวค่าแรงย่ำต๊อกมาเจอกันควงคู่เดินเท้ากลับบ้านโคราช

ผู้สื่อข่าวพบผู้ชาย 2 คน เดินเท้ามาตามถนนสาย 304 (กบินทร์บุรี-ปักธงชัย) ขาขึ้น บริเวณบ้านหนองคล้า ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พร้อมรถเข็นบรรทุกสัมภาระ กระเป๋าเสื้อผ้า, กระแป๋งและของใช้อีก 2-3 รายการ สภาพเหงื่อไหลท่วมกาย เสื้อผ้ามอมแมมและแวะนั่งใต้ร่มไม้ข้างทาง

จากการสอบถามทราบว่าเดินเท้ามาจากเขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร 4 วัน 4 คืนแล้ว ชื่อโชคชัย แทวกระโทก อายุ 35 ปี บ้านเดิมอยู่ ต.ทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ต่อมาย้ายมาอยู่ที่ จ.นครราชสีมา นายโชคชัยกล่าวว่า ไปทำงานรับจ้างก่อสร้าง 1 ปี ได้ค่าแรงงวดละไม่กี่พัน บางครั้งก็ไม่ได้ เถ้าแก่บอกว่าเงินยังไม่ออก ทำให้ไม่มีเงินแม้จะไปซื้อข้ามหุง ตัดสินใจออกจากงานกลับบ้าน ด้วยการเดินเท้าตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.ไม่มีเงินติดตัวแม้แต่บาทเดียว น้ำได้อาบบ้าง ไม่ได้อาบบ้าง

นายโชคชัยกล่าวต่อว่า ช่วงเช้าวันที่ 11 ต.ค.เดินทางมาถึงแยกเขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา แวะพักเอาแรงที่ศาลาที่พักผู้โดยสารพบกับนายกมล แช่มสำโรง อายุ 42 ปี พูดคุยด้วย จนทราบว่าเป็นคนโคราชเหมือนกัน อยู่ ต.สำโรง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา นายกมลบอกว่า ถูกนายจ้างเบี้ยวค่าแรง หลังจากไปทำงานที่ชลบุรี เดินเท้ามาหลายวันแล้วจึงตัดสินใจร่วมเดินทางกลับบ้านด้วยกันเพื่อหางานทำ งานอะไรก็ได้ขอให้เป็นงานสุจริตทำทั้งนั้น

Advertisement

ผู้สื่อข่าวประสานรถตำรวจทางหลวงจากตู้ยามศรีมหาโพธิ ที่ขับรถผ่านมา ให้ไปส่งทั้งสอง แต่ทั้งสองขอเดินไปดีกว่าบอกกลับบ้านตอนนี้อายเขา

ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์หานางบัวชุม แทวกระโทก ที่นายโชคชัยกล่าวอ้างว่าเป็นแม่ นางบัวชุมกล่าวว่า นายโชคชัยเป็นลูกชายจริงไปรับจ้างทำงานที่กรุงเทพฯเกือบปีแล้ว เสียใจที่ลูกชายทำงานไม่ได้เงิน บอกให้กลับบ้านอย่าไปคิดเอาเรื่องกับนายจ้าง ไม่ให้ก็ไม่เป็นไรกลับมาทำมาหากินที่บ้านดีกว่า

นายโชคชัยกล่าวว่า ขอให้นายจ้างเลิกทำนาบนหลังคนได้แล้ว ทุกคนมีหัวจิตหัวใจเหมือนกัน ทำงานให้แล้ว นายจ้างก็รับเงินมาแล้ว แต่กลับไม่ให้ค่าแรงบ่ายเบี่ยงมาตลอด หลายคนที่ตกอยู่ในสภาพเดียวกัน บางคนมีลูก มีเมีย ที่ต้องเลี้ยงดูอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวได้ให้เงินไป 500 บาทไว้ซื้อข้าวกินระหว่างทาง ขณะที่ชาวบ้านให้น้ำไว้ดื่ม

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image