ความคืบหน้ากรณี 3 พ่อแม่ลูก นายธนัยนันท์ เชื้อถิระพงษ์ อายุ 31 ปี น.ส.จิตรารัตน์ นามจำปี อายุ 26 ปี ภรรยา และ ด.ญ.แดง (นามสมมุติ) อายุ 7 ปี นอนหมดสติอยู่ในรถยนต์เก๋ง บนถนนทางด่วนบูรพาวิถี ขาเข้าชลบุรี อ.บางปะกง จ.ชลบุรี วันที่ 11 พฤศจิกายน และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
ล่าสุดอาการของ 3 พ่อแม่ลูกพ้นขีดอันตรายแล้ว หลังจากแพทย์ตรวจดูอาการผู้ป่วยพบเกิดจากการสูดดมแก๊สจากท่อไอเสียที่เข้าไปในรถยนต์เป็นจำนวนมากจนทำให้หมดสติ นำเข้าเครื่องไฮเปอร์ บาริก แชมเบอร์ รักษาด้วยออกซิเจนความดันสูง เป็นการบำบัดด้วยวิธีหายใจด้วยออกซิเจนบริสุทธิ์ 100% เพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจนในร่างกายเป็นเวลา 2 ชั่วโมง
นายแพทย์ธวัชชัย ศานติพัฒน์ แพทย์เวชศาสตร์ใต้น้ำโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กล่าวว่า ผลการตรวจสอบพบสารคาร์บอนมอนอกไซด์ไปจับเม็ดเลือด ทำให้เลือดไปส่งตามร่างกายไม่ได้ เป็นเหตุให้หมดสติ ตรวจอาการล่าสุดทุกคนรู้สึกตัวดี รับประทานอาหารได้
สำหรับผู้ที่สูดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ต้องถึงมือแพทย์ภายใน 6 ชั่วโมง แพทย์จะมีการตรวจผ่านห้องความดันบรรยากาศสูง เป็นเครื่องตรวจสอบโดยเฉพาะและไล่ความดันคาร์บอนมอนอกไซด์ออกจากร่างกายได้
นายธนัยนันท์ ผู้เป็นพ่อ กล่าวว่า ขณะขับรถได้กลิ่นคล้ายควันจากท่อไอเสียภายในรถ แต่ฝืนขับไปเรื่อยๆ เกือบ 1 ชม. พอรู้สึกตัวว่าจะไม่ไหวจึงจอดรถข้างทาง สะกิดเรียกภรรยาที่นั่งอยู่ข้างๆ จากนั้นไม่รู้สึกตัวอีกเลย
น.ส.จิตรารัตน์ ผู้เป็นแม่ กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุได้กลิ่นคล้ายกลิ่นก๊าซไม่ทราบว่าก๊าซอะไร ทำให้เหมือนขาดอากาศหายใจจนหมดสติไปโดยไม่รู้สึกตัว ตื่นขึ้นมาอีกทีพบว่านอนอยู่โรงพยาบาลบางปะกง ก่อนถูกส่งต่อมาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พ.ต.อ.ประเสริฐ โตศักดิ์สิทธิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า แพทย์โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ระบุว่า คนไข้ทั้ง 3 คน ได้รับสารพิษจากก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ วันเกิดเหตุแม่มีอาการชัก หมดสติ ได้สติมาก็คลื่นไส้ อาเจียน มีอาการอ่อนแรง พ่อคลื่นไส้ อาเจียน, และลูก ชักเกร็ง ลิ้นแข็ง หลังทำการรักษา พ่อและลูกรู้สึกตัวแพทย์ให้กลับบ้านได้ ส่วนแม่ยังคงต้องรอดูอาการ
แต่จากการให้ช่างตรวจสอบรถน่าแปลกใจ ไม่พบความผิดปกติเครื่องยนต์ และไม่มีกลิ่นไหม้ใดๆ ทั้งสิ้น แถมรถเก๋งยังใหม่ ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง จะประสานวิศวกรรมยานยนต์มาตรวจสอบรถเพื่อหาสาเหตุต่อไป พร้อมส่งกาแฟ ชาเขียวที่พบในรถไปให้หน่วยงานเฉพาะทางตรวจสอบด้วย
