นายสุภักดิ์ ยางเดี่ยว อายุ 51 ปี ชาวบ้านบ้านวังกกเดื่อ ต.หนองหญ้าปล้อง อ.วังสะพุง จ.เลย ร้องเรียนสื่อมวลชนว่าสวนยางพาราของตนเอง ถูกไฟเผาอ้อยไร่ข้างเคียงลามมาไหม้ต้นยาง ได้รับความเสียหาย ยืนต้นตายกว่า 900 ต้น สูญเงินลงทุนกว่า 1 แสนบาท
นายสุภักดิ์เล่าว่า ปลูกยางพาราไว้ 900 ต้น อายุ 13 ปี บนพื้นที่ 10 ไร่ โดยพื้นที่รอบๆ เป็นไร่อ้อยของเพื่อนบ้าน ช่วงนี้กำลังเตรียมเปิดกรีดในอีกไม่กี่วันที่จะถึงนี้ แต่เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562 ช่วงเวลากลางคืน มีคนจุดไฟเผาอ้อยที่อยู่ไร่ข้างเคียง โดยไม่มีการควบคุมแนวไฟไม่ให้ออกนอกไร่อ้อย ทำให้เปลวไฟได้ลุกลามเข้าไปในสวนยางของตนเองไหม้เสียหายทั้งหมด จนกระทั่งถึงตอนเช้าวันต่อมา ตนได้มาที่สวนยาง เพื่อเตรียมก่อสร้างกระท่อมสำหรับนอนกรีดยาง แต่เมื่อมาเห็นสภาพต้นยางกลายเป็นสีเหลืองแห้ง ก็ถึงกับตกใจมาก แทบจะน้ำตาไหล ไม่มีเรี่ยวแรงทำงานต่อ
หลังจากนั้นก็ไปแจ้งต่อผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน แต่ไม่มีใครสนใจให้ความช่วยเหลือ ตนจึงไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองหญ้าปล้อง ให้ดำเนินคดีกับเพื่อนบ้านที่ตนเชื่อว่าเป็นคนเผา ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ แล้วก็กลับไป หลังจากนั้นตนก็ไปร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอวังสะพุง เพื่อขอความช่วยเหลือเงินชดเชย เจ้าหน้าที่ก็รับเรื่องไว้ จนกระทั่งถึงวันนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ จากทางราชการ ส่วนตัวคนที่ตนเชื่อว่าเป็นผู้ลงมือเผานั้นก็ปฏิเสธว่าไม่ได้เผา เป็นไฟป่าที่ลุกลามมาจากบนภูเขา ซึ่งในช่วงนั้นก็ไม่มีไฟป่าแต่อย่างใด
นายสุภักดิ์กล่าวต่อว่า เสียใจมาก ปลูกยาง เฝ้าประคบประหงมดูแลมา 13 ปี ลงทุนหมดเงินไปกว่า 1 แสนบาท ตั้งใจว่าจะเปิดหน้ายาง มีรายได้พอจุนเจือหาเลี้ยงครอบครัว ส่งลูกหลานเรียนต่อ เพราะตนเองมีฐานะยากจน อาชีพปัจจุบันแค่รับจ้างกรีดยาง และรับจ้างทั่วไป รายได้ไม่แน่นอน ไม่เพียงพอ หากจะเริ่มต้นปลูกใหม่ ก็คงต้องใช้เวลาอีกกว่า 10 ปี จึงจะได้กรีด ผมก็ไม่รู้ว่าจะเรี่ยวแรงที่ไหนมาทำต่อ เพราะอายุตอนนั้นก็เกิดหกสิบปีแล้ว อยากวิงวอนขอให้ทางราชการเข้ามาช่วยเหลือด้วย และอยากให้ตำรวจเร่งรัดคดีนี้ นำคนก่อเหตุมารับผิดชอบเร็วๆ
