ยกระดับเสรีภาพกัญชา อนาคตสังคมไทย จะเป็นสมุนไพร หรือ ยาเสพติด
กัญชาถูกจัดเป็นยาเสพติดประเภทที่ 5 สำหรับในประเทศไทย ในขณะที่บางประเทศเริ่มมีการตื่นตัวในการศึกษาสรรพคุณของกัญชา มีการค้นคว้าวิจัยหาทั้งประโยชน์-โทษของกัญชา อย่างต่อเนื่อง ถึงขนาดมหาวิทยาลัยบางแห่งที่บอสตัน สหรัฐอเมริกามีการเปิดสอนหลักสูตรกัญชาวิทยา และมีการแบ่งโซนให้บางรัฐมีการอนุญาตให้ใช้กัญชาทางการแพทย์ ไปจนถึงบางรัฐที่อนุญาตให้ใช้ได้เพื่อการผ่อนคลายและสันทนาการ
ส่วนในประเทศไทย เมื่อกัญชาเป็นยาเสพติด ทำให้พืชชนิดนี้ไม่ได้ถูกนำมาค้นคว้าวิจัยเพื่อใช้ประโยชน์ในทางอื่น ในขณะที่เหล้าบุหรี่ที่จัดเป็นยาเสพติดซึ่งมีอันตราย นั้นกลับจำหน่ายกันได้อย่างเปิดเผย
นพ.อังกูร ภัทรากร รอง ผอ.สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี บอกว่า กัญชาและกระท่อมถูกจัดเป็นยาเสพติดประเภทที่ 5 อันดับสุดท้าย ซึ่งการจัดลำดับนี้อาจเลียนมาจากต่างประเทศ ซึ่งด้วยสรรพคุณของกัญชานั้นน่าจะมีประโยชน์หลายด้าน
เช่นเดียวกับ วีรพันธ์ งามมี นักกิจกรรมอิสระและเลขาธิการมูลนิธิโอโซน ตั้งคำถามว่า ข้อมูลเรื่องความน่ากลัวของกัญชามีความถูกต้องมากแค่ไหน ในประเทศไทยนั้น ยาเสพติดที่ถูกใช้มากที่สุดคือ แอลกอฮอล์ บุหรี่ กัญชา ยาบ้า และ ยานอนหลับ แต่ยังไม่มีการรายงานว่าการเสพกัญชาทำให้คนเสียชีวิต ในขณะที่เหล้า-บุหรี่นั้น เราทราบถึงผลร้ายต่อสุขภาพทำให้มีผู้เสียชีวิตได้อย่างแน่นอน
สุรนันทน์มองว่า โดยส่วนตัวก็ยังเห็นว่าไม่รีบเปิดเสรีกัญชาเหมือนในต่างประเทศ เพราะบางอย่างเราไม่สามารถทำตามประเทศอื่นๆได้ทั้งหมด แต่ก็ไม่ควรมองข้าม ควรที่จะทำการศึกษาวิจัยพืชชนิดนี้ก่อน เพื่อให้เกิดการถกเถียงกันบนข้อมูลทางวิชาการ อย่างในต่างประเทศที่สู้กันด้วยผลวิจัย