The Hel(l)met Show EP.43 ชายไทยเจ้าเอ้ย…อยู่เฉย ๆ ก็เป็นทหารได้

WIN/Gallup องค์กรสำรวจระดับนานาชาติเผยแพร่ผลสำรวจประจำปี 2015 ต่อคำถามที่ว่า “คุณจะออกไปรบเพื่อประเทศหรือไม่” พบมีชาวญี่ปุ่นอดีตประเทศผู้แพ้สงครามโลก 2 สมัครใจจับอาวุธออกรบเพียง 11 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

ผลสำรวจดังกล่าวทำการเก็บสถิติในช่วงเดือนกันยายนถึง เดือนธันวาคม 2014 จากกลุ่มตัวอย่างใน 64 ประเทศ จำนวน 62,398 คน

อีกประเทศที่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 เช่นเดียวกับญี่ปุ่นอย่างเยอรมนีก็มีตัวเลขที่ไม่ห่างกันนัก โดยชาวเยอรมันที่พร้อมรบเพื่อประเทศมีเพียง 18 เปอร์เซ็นต์ น้อยที่สุดเป็นลำดับที่ 3 รองจากญี่ปุ่นและเนเธอร์แลนด์

Advertisement

จะเห็นได้ว่ากลุ่มประเทศจากยุโรปตะวันตกส่วนใหญ่รวมถึงสหรัฐฯ มีตัวเลขของประชากรที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการแก้ปัญหาด้วยการใช้กำลังที่ค่อนข้างต่ำ ไม่เกิน 50 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่รัสเซียซึ่งเพิ่งเข้าไปมีส่วนร่วมกับความขัดแย้งในซีเรียมีตัวเลขผู้ต้องการรบเพื่อชาติที่ 59 เปอร์เซ็นต์

ส่วนประเทศไทยที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติเพิ่งผ่านพระราชบัญญัติกำลังสำรอง เพื่อให้กองทัพสามารถเรียกกำลังพลสำรองเข้าร่วมภารกิจกับกองกำลังประจำการได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับให้กองทัพสามารถเรียกกำลังพลสำรองเข้าฝึกกับทหารประจำการในยามปกติได้โดยสะดวก พบว่ามีชาวไทยมากถึง 72 เปอร์เซ็นต์จากกลุ่มตัวอย่างที่พร้อมรบเพื่อชาติ เป็นรองเพียงฟิลิปปินส์ และเวียดนามเท่านั้นในบรรดาชาติอาเซียน

อ.พิชญ์ และ คุณสุรนันทน์ เห็นตรงกันว่าหากประเทศมีสงครามก็เป็นหน้าที่ของชายไทยที่ต้องร่วมรบเพื่อประเทศ แต่ลักษณะการรบในปัจจุบันต่างจากอดีต ลักษณะของสงครามมีการเปลี่ยนรูปแบบไม่เหมือนยุคล่าอาณานิคมอยู่แล้ว การเรียกฝึกกำลังพลสำรองนั้นตอบโจทย์หรือไม่

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image