อาจจะเป็นช่วงเคราะห์ซ้ำกรรมซ้อนของม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพที่ปัจจุบันถูกโดนไล่บี้จากพรรคมีกระแสข่าวจะปลด ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ออกมาต่อเนื่อง ขณะที่ในปีหน้าที่ถึงเวลาจะต้องมีการเลือกตั้งผู้ว่าอีกครั้งแต่ก็ยังดูเหมือนว่าขณะนี้การเปลี่ยนแปลงด้านตำแหน่งต่างๆจะถูกดองไว้ก่อน และอาจทำให้ชายหมูยังต้องอยู่ในตำแหน่งไปเรื่อยๆ
ด้านนายวิลาศจันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ก็เดินหน้าแถลงเรื่องทุจริตใน กทม.ภายใต้การบริหารของผู้ว่าคนนี้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่โครงการพัฒนาทักษะทางดนตรีของโรงเรียนสังกัดกทม. ที่ส่อแววว่าจะมีการทุจริตในการจัดซื้อเครื่องดนตรีการจัดซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ การเช่ารถเก็บของมูลฝอย รถบรรทุกน้ำ โครงการติดตั้งกล้องวงจรปิดซีซีทีวีและอื่นๆ แต่ทางพรรคยังไม่สามารถดำเนินการอะไรได้เนื่องจากคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ห้ามประชุมพรรคการเมือง
คุณสุรนันทน์มองว่า กทม.ถือเป็นแดนสนธยา เพราะเป็นพื้นที่ที่ใหญ่มีการจัดซื้อในงบประมาณที่สูง และมีระบบจัดซื้อของตัวเอง ถูกกล่าวหาว่ามีการทุจริตในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างและเป็นปัญหาที่เรื้อรังมานานบางครั้งนโยบายที่ดีๆหลายโครงการเสียหายเพราะกระบวนการจัดซื้อเหล่านี้สิ่งที่สำคัญคือวันนี้ในพรรคประชาธิปัตย์เมื่อส่งคนลงเลือกตั้งแล้วถ้าคนคนนั้นมีปัญหาทุจริตหรือมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลพรรคก็ควรจะสามารถจัดการได้แต่จากขณะนี้ที่ยังไม่สามารถประชุมพรรคได้
อ.พิชญ์ตั้งคำถามว่าเหตุใดถึงไม่มีการจัดการตามกลไกปกติ คือการประชุมสภาท้องถิ่นหรือหากไม่พอใจการทำงานของผู้ว่าก็น่าจะสามารถร้องเรียนที่สภา กทม. ให้สภากทม.ตรวจสอบการทำงานของผู้ว่าในฐานะที่เป็นการตรวจสอบโดยการปกครองส่วนท้องถิ่นแต่กลายเป็นพรรค.ประชาธิปัตย์ต้องการตรวจสอบกันเองโดยใช้กลไกระดับชาติและหากสามารถล้มสุขุมพันธ์ได้จริงก็ยังคงเป็นผู้ว่าได้เพราะผู้ว่าไม่จำเป็นที่จะต้องสังกัดพรรคการเมืองการที่พรรคดิสเครดิตม.ร.ว.สุขุมพันธุ์จะเป็นผลเสียต่อพรรคมากกว่าผลดีหรือไม่
