“มีชัย”ลั่นร่างรัฐธรรมนูญขจัดทุจริตประพฤติมิชอบ ย้ำไม่เพิ่มอำนาจองค์กรอิสระ มีอำนาจหน้าที่ใกล้เคียงของเดิม หากบอกรัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตยขอให้แก้ ก็ไม่รู้จะแก้อย่างไร แต่ต้องบอกเหตุผลมาทำให้รัฐธรรมนูญสมบูรณ์ด้วย พร้อมคงมาตรา44 ของหัวหน้าคสช.ไว้ แต่ไม่มีอำนาจล้มล้างรัฐธรรมนูญได้ ส่วนแม่น้ำ4สาย ไม่ต้องเว้นวรรคการเมือง 2 ปี เพราะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการร่าง หาก คสช. ต้องการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ก็ต้องลาออจากคสช. 90วัน หลังรัฐธรรมนูญประกาศใช้
เมื่อวันที่ 29 มกราคม นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ชี้แจงสาระสำคัญในร่างรัฐธรรมนูญร่างแรก ว่า ร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกใช้เวลาทำงานทั้งหมด 170 วัน มี 270 มาตรา 15 หมวด โดยยึดกรอบตามมาตรา 35 แห่ง รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 ใน10 ข้อ มีทั้งกลไกที่มีประสิทธิภาพในการป้องกัน ตรวจสอบ และขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบ ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งกลไกในการกํากับและควบคุมให้การใช้อํานาจรัฐเป็นไปเพื่อประโยชน์ กลไกที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและตรวจสอบมิให้ผู้เคยต้องคําพิพากษาหรือคําสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายว่ากระทําการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ หรือเคยกระทําการอันทําให้การเลือกตั้งไม่สุจริตหรือเที่ยงธรรม เข้าดํารงตําแหน่งทางการเมืองอย่างเด็ดขาด ส่วนรวมของประเทศชาติและประชาชน
ทั้งนี้นายมีชัยยืนยันว่า ตลอดเวลาการร่างรัฐธรรมนูญได้รับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากทุกฝ่ายทุกรูปแบบ ขณะเดียวกันจะมีการรับฟังความคิดจากทุกฝ่ายอีกครั้งภายในวันที่ 15 ก.พ.นี้ ดังนั้นร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จึงเน้นมาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจัง และทำให้การเมืองไม่ใช่กรอบป้องกันตัวเมื่อทำผิด
นายมีชัยกล่าวถึงกลไกการใช้อำนาจรัฐ ได้กำหนดให้เป็นหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีที่จะต้องดำเนินการบางอย่าง พร้อมยืนยันว่า กรธ.ไม่ได้เพิ่มอำนาจองค์กรอิสระให้มากขึ้นกว่าเดิมโดยมีอำนาจหน้าที่ใกล้เคียงของเดิม โดยกำหนดให้ชัดเจนว่าเรื่องใดทุจริตเรื่องใดจะก่อความเสียหายร้ายแรง รวมทั้งมาตรฐานจริยธรรมจะกำหนดว่ามาตรฐานจริยธรรมอย่างไรฝ่าฝืน และใครมีลักษณะต้องห้ามจะเข้ามาเล่นการเมืองไม่ได้ โดยการพ้นตำแหน่งจะให้พ้นไปอัตโนมัติ โดยหากสงสัยต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ชี้ขาด พร้อมทั้งให้อำนาจคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินคอยตรวจสอบการใช้จ่ายเงินแผ่นดิน
ส่วนกรณีที่มีการระบุว่าไม่ยึดโยงกับประชาชนนั้น นายมีชัย ชี้แจงว่าองค์กรอิสระต้องเป็นอิสระ ไม่ใช่ลงคะแนนเอาเสียงข้างมาก ในสากลไม่ว่าประธานาธิบดี หรือ นายกรัฐมนตรี ทำผิดก็ต้องไปที่ศาลเป็นไปตามกลไกปกติ ซึ่งประชาชนในทุกประเทศก็ไม่ได้เชื่อมโยงประชาชนเป็นคนละเรื่องกับการเลือกตั้งส.ส. ย้ำองค์กรอิสระทุกองค์จะถูกตรวจสอบเป็นวงจรหมด
นอกจากนี้นายมีชัยกล่าวถึง กลไกในการเลือกตั้งที่เปลี่ยนไปนั้น กรธ.มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นไปอย่างจริงจัง โดยใช้ระบบจัดสรรปั่นส่วนผสม ขณะที่การจัดให้มีวุฒิสภาในระบบทางอ้อมนั้น เพื่อให้ประชาชนที่สนใจได้เข้ามามีส่วนร่วมในใจกลางการเมือง โดยไม่ต้องพึงพานายทุน หรือ พรรคการเมือง พร้อมย้ำว่า ร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกยังไม่สมบูรณ์เต็มที่เพราะต้องรับฟังความคิดเห็น เพื่อนำความคิดเห็นมาปรับแก้ให้สอดคล้องกัน กรธ.พร้อมรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายเสมอ
” หากบอกรัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตยขอให้แก้ ก็ไม่รู้จะแก้อย่างไร แต่ต้องบอกเหตุผลมาทำให้รัฐธรรมนูญสมบูรณ์ พร้อมย้ำว่า ร่างนี้ออกไปเพื่อมุ่งประโยชน์ของประเทศ มุ่งผลประโยชน์ประชาชนและประเทศชาติสำคัญ พร้อมกำหนดนิยามร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ว่าฉบับปฏิรูปประเทศ”นายมีชัยกล่าว
นายมีชัย กล่าวอีกว่า สำหรับอำนาจมาตรา44 ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เมื่อรัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่ประกาศใช้ ยังคงมีอำนาจตามมาตรา44 อยู่ แต่จะไม่มีอำนาจล้มล้างรัฐธรรมนูญได้ ให้มีอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ได้บางอย่างเท่านั้นและอาจคุมองค์กรอิสระได้ ถ้ามีใครสงสัยในอำนาจมาตรา44 ก็ให้ไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขณะเดียวกัน กรธ.ไม่ให้แม้น้ำ4สาย คณะรัฐมนตรี คสช. สนช. สปท.ต้องเว้นวรรคการเมือง 2 ปีเหมือน กรธ. เพราะแม่น้ำ4 สายไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการร่างรัฐธรรมนูญ หาก คสช.ต้องการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ก็ต้องลาออจากตำแหน่งคสช. ใน90 วันหลังรัฐธรรมนูญประกาศใช้
นายมีชัยกล่าวว่าส่วนโรดแม็ปตามบทเฉพาะกาลที่ทำให้การเลือกตั้งต้องขยับออกไปจากโรดแม็ปที่รัฐบาลวางไว้นั้น เพราะ กรธ.จะต้องทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่จำเป็น 10ฉบับให้เสร็จใน8 เดือน และให้เพิ่มตัวกรรมการอีกได้แต่ไม่เกินเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ แต่ถ้ายังไม่มีกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญก็ยังเลือกตั้งไม่ได้ โดยยอมรับว่าการจัดทำกฎหมายดังกล่าวจะทำให้การเลือกตั้งต้องขยับออกไปจากโรดแม็ปเดิม2-3 เดือน แต่กฎหมายที่จำเป็น5-6ฉบับหากเสร็จก่อนก็จัดเลือกตั้งได้
เมื่อถามว่า หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติจะดำเนินการต่อไปอย่างไร นายมีชัย กล่าว่า “ไม่รู้ อย่าผมให้ผมตอบเดี๋ยวตกใจ” เมื่อถามย้ำว่า ขอให้ช่วยตอบให้ตกใจได้หรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่า “อย่าเลย เดี๋ยวเป็นลม”
นายมีชัย ระบุว่า ส่วนการเปิดประชุมรัฐสภาครั้งแรกจะต้องมี ส.ส.ไม่น้อยกว่าร้อยละ95 ทาง กรธ. ไม่กำหนดเวลากรอบเวลาในการรับรองไว้30 เดิม เพราะได้กำหนดให้ กกต.ต้องรับรอง ส.ส.ให้เสร็จใน60 วันให้ได้ร้อยละ95 ถึงเปิดประชุมรัฐสภาได้ แต่ถ้าทุจริตกันทั้งเมืองก็ให้ยกเลิกทั้งหมดแล้วเลือกตั้งกันใหม่