เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ วสท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบ ตึกสูง 10 ชั้น ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
นายกวิศวกรรมสถานเผยผลตรวจตึกหรู10ชั้นถูกไฟไหม้
ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่าจากการตรวจสอบยืนยันว่าต้นเพลิงมาจากชั้น 3 แต่ไม่ใช่จุดตั้งโต๊ะหมู่บูชา แต่ต้นเพลิง อยู่ใกล้กับห้องครัว พบความเสียหายบริเวณเพดานและเริ่มเห็นเหล็กเสริม จากนั้นเพลิงได้ลุกลามขึ้นไปทางบันได ตั้งแต่ชั้น 3 จนถึงชั้น 7 ทำให้ชั้น 3 ถึง ชั้น 7 ไม่สามารถใช้งานได้ และเบื้องต้นห้ามบุคคลขึ้นไปด้านบน
นายกวิศวกรรมสถานฯ ระบุพบว่าบริเวณชั้น 7 ที่มีผู้เสียชีวิต และ ชั้น 8 เกิดความเสียหายมากที่สุด เนื่องจากเห็นคอนกรีตเริ่มหลุดร่อน และเห็นเหล็กด้านใน จะต้องตรวจสอบพิเศษ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างใช้เครื่องมือตรวจสอบ คาดว่าภายใน 1 สัปดาห์ จะทราบผลโดยละเอียด แต่ในส่วนชั้น 1 และ ชั้น 2 เสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
บรรยากาศ การตรวจสภาพตึกหรู10ชั้นถูกไฟไหม้
ศ.ดร.สุชัชวีร์ ยังระบุว่าจากการตรวจสอบด้วยสายตา พบว่าโครงสร้างภายนอกยังสามารถใช้งานได้ และเสายังไม่พบรอยร้าว แต่พบรอยร้าวบริเวณคานเล็กน้อยที่ชั้น 7 และพื้นถูกไฟไหม้เสียหายเบื้องต้นจะต้องเปลี่ยนพื้นใหม่ บริเวณชั้นที่ได้รับความเสียหายรุนแรง และไม่จำเป็นต้องทุบตึก สำหรับตึกดังกล่าวเป็นตึกเก่า ก่อสร้างมาเกือบ 30 ปี ก่อนจะมีพระราชบัญญัติควบคุมอาคารฉบับใหม่ที่ระบุไว้ว่าอาคารที่สูงกว่า 23 เมตร จะต้องมีระบบป้องกันเพลิงไหม้ อาทิ ระบบสปริงเกอร์ ระบบดูดไฟ และการป้องกันอื่นๆ
