ตำรวจวิชิตสรุปประเด็นน้องดีเจหายตัว 2 ประเด็น เดินพลัดหลงเอง กับ คนใกล้ชิดนำพาเข้าไปในป่า ขณะที่อาการน้องดีเจไม่ค่อยสู้ดีนัก มีการติดเชื้อในกระแสเลือด แพทย์ รพ.วชิระภูเก็ตเฝ้าระวังในห้องอาร์ซียูอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชม.
จากกรณี แม่ของน้องดีเจ อายุ 23 ปี พนักงานห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต ขอความช่วยเหลือผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น เฟซบุ๊ก เว็บบอร์ดและเพจ เป็นต้น ขอให้ช่วยติดตามหา ”น้องดีเจ” อายุ 3 ขวบ 9 เดือน บุตรชายที่หายออกจากบริเวณหน้าบ้าน ม.3 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อช่วง 11.00 น.ของวันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนครอบครัวและชาวบ้านและตำรวจต่างระดมกำลังออกค้นหาในพื้นที่ตลอด 5-6 วันที่ผ่านมา
กระทั่งช่วงสายวันที่ 9 กุมภาพันธ์ กำลังตำรวจสภ.วิชิต กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงาและหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ระดมกำลังกว่า 100 คนเดินปูพรมในพื้นที่บริเวณหลังบ้านพัก ซึ่งเป็นป่าละเมาะติดต่อกับสวนผลไม้และภูเขาบ้านตีนเขา ถ.เจ้าฟ้าตะวันตก ต.วิชิต อ.เมือง รวมทั้งมีผู้เป็นตาของน้องดีเจและเจ้าโจ้-สุนัขที่เลี้ยงไว้เป็นเพื่อนน้องดีเจร่วมค้นหาด้วย ในที่สุดก็พบชายอ้างว่าเป็นเจ้าของสวนผลไม้ แจ้งว่ามีเด็กอยู่ใกล้ลำธารและชี้ไปยังจุด ก่อนจะวิ่งนำลงไปจนกระทั่งพบตัวน้องดีเจอยู่ในโพรงหญ้าใกล้ลำธาร สภาพอิดโรย มีบาดแผลจากยุงและแมลงกัดต่อยเต็มแขนและขาทั้งสองข้าง จึงรีบนำตัวขึ้นมาอย่างทุลักทุเล โดยมีหน่วยกู้ภัยเร่งให้การช่วยเหลือนำขึ้นจากหุบเขา ก่อนนำส่ง รพ.วชิระภูเก็ต
ต่อมา นพ.จิรเดช ปัญญาสุทธิกิจ นายแพทย์ผู้ทำการรักษา โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวว่า เด็กมีบาดแผลตามร่างกายหลายจุด โดยเฉพาะขาทั้งสองข้างมีสภาพคล้ายเน่าเปื่อยเหมือนแช่น้ำเป็นเวลานาน ผิวหนังร่างกายมีร่องรอยถูกยุงและแมลงกัดต่อยจำนวนมาก มีอาการขาดน้ำและอาหาร ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด แพทย์จึงนำตัวเด็กเข้าห้องอภิบาลการหายใจหรือห้องอาร์ซียู เพื่อดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะต้องเฝ้าสังเกตอาการตลอด 24 ชม.จากนี้ไป
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต ตั้งประเด็นว่าเด็กอาจเดินพลัดหลงไปในป่าเองหรือคนใกล้ชิดเป็นผู้นำพาตัวไป ซึ่งจะมีการขยายผลการสอบสวนปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดอีกครั้ง
