เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถนนแจ้งวัฒนะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยทีมทนายความ ได้เดินทางมายังศาลฎีกาฯ ตามนัดไต่สวนพยานโจทก์ครั้งที่ 2 คดีโครงการรับจำนำข้าว ในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 กรณีละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท
โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางเข้าศาลฎีกาฯว่า กรณีที่นายจิรชัย มูลทองโร่ย รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการว่าด้วยการรับผิดทางแพ่งคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ออกมาระบุว่า โครงการรับจำนำข้าวไม่ผิด แต่ผิดที่การดำเนินการ ขั้นตอนต่างๆ ว่า ส่วนตัวไม่รู้จะอธิบายยังไง ขอกรุณาอย่าเหมารวมว่าการจำนำข้าวผิด เพราะตอนนี้ อยู่ขั้นศาลที่ต้องพิสูจน์ต่อไป เพราะเตรียมซักค้านพยานฝ่ายโจทก์ ยืนยันว่าทีมทนายจะทำงานเต็มที่ในการเตรียมหลักฐาน
ส่วนกรณีที่ได้มีการยื่นจดหมายขอความเป็นธรรมไปที่สำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุว่า ส่วนตัวขอความเป็นธรรมและได้มีการยื่นหนังสือไป 7 ฉบับแล้ว แต่ยังไม่เห็นการตอบรับกลับมา เพราะตัวเองต้องเรียกร้องทุกอย่างในการรักษาสิทธิของตน
อย่างไรก็ตาม ตนขอปฏิเสธกระแสข่าวที่ว่ามีการจ้างที่ปรึกษากฎหมาย 17 คนจากสำนักงานจากต่างประเทศมาทำคดีนี้ โดยระบุว่า ทีมทนายก็มีเท่าที่เห็น และใช้ทีมเดิมที่เป็นคนไทย ซึ่งทนายต่างประเทศยังไม่จำเป็น เป็นคดีในราชอาณาจักรไทย และทนายไทยก็มีความรู้ความสามารถ เชี่ยวชาญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินทางมาถึงศาลได้ทักทายมวลชนที่มาให้กำลังใจขณะที่มวลชน 300 กว่าคน ตะโกนคำว่า “รักยิ่งลักษณ์ ยิ่งลักษณ์สู้สู้” ตลอดทางพร้อมมอบดอกกุหลาบก่อนเข้าสู่ศาลฎีกาฯ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ จากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 (บก.น.2)
