สุดเศร้า งานฌาปนกิจ ‘มะปิน อดีตบัณฑิต มศว’ เหยื่อถูกฆ่าชิงไอโฟน ตรงวันเกิดผู้ตาย เพื่อนร้องต้องไม่มีการลดโทษ (คลิป)

เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2560 เวลา 18.30 น. ที่เมรุวัดกลางคลองสาม ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้มีพิธีฌาปนกิจนายวศิน เหลืองแจ่ม หรือมะปิน อายุ 25 ปี ที่เสียชีวิตเนื่องจากถูกคนร้ายฆ่าชิงทรัพย์ เหตุเกิดเมื่อค่ำวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา บริเวณซอยสุคนธสวัสดิ์ 27 พื้นที่ สน.โคกคราม โดยมีครอบครัว เพื่อนสนิท กลุ่มเพื่อนนิสิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และพระภิกษุสงฆ์จำนวนมาก ร่วมนับพันคนร่วมพิธี สำหรับบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ทางผู้เตรียมงานได้ฉายวิดีโอ-ภาพนิ่งของผู้ตายขณะมีชีวิตอยู่และเป็นจิตอาสาถ่ายภาพของวัด รวมถึงขณะตอนที่บวชเป็นพระภิกษุฉายก่อนเริ่มพิธีฌาปนกิจ โดยทางญาติได้ทำหนังสือที่ระลึก เขียนคำไว้อาลัย รวบรวมภาพสำคัญ รวมทั้งหนังสือธรรมะแจกแก่ผู้มาร่วมงาน ซึ่งวันที่ 12 มกราคม เป็นวันที่ตรงกับวันคล้ายวันเกิดผู้ตายด้วย

ขณะเดียวกันภายหลังจบพิธี กลุ่มเพื่อนของผู้ตายซึ่งส่วนใหญ่เป็นนิสิตคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ได้แสดงออกด้วยการชูป้ายข้อความและรูป ก่อคดีซ้ำ-ไร้สำนึกชั่วดี ไม่มีสิทธิลดโทษ ซึ่งเพื่อนผู้ตายได้จัดตั้งเพจ Facebook  Fight for Mapin เพื่อรวบรวมเสียงในการเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองดำเนินการตามกฎหมายขั้นสูงสุดกับผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ ซึ่งก่อเหตุซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ได้มีความสำนึก เพื่อไม่ให้ลดโทษแล้วออกมาก่อเหตุสะเทือนขวัญเช่นนี้กับคนอื่นอีก

นายพรเทพ ตุ้มทอง หนึ่งในแอดมินเพจดังกล่าว กล่าวว่า ฝากถึงผู้ใหญ่ในบ้านเมือง เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีกโดยที่ไม่มีการแก้ไขอะไรกันเลย

Advertisement

หลังจากนี้จะมีการรวบรวมรายชื่อเพื่อส่งชื่อให้กับสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศและสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อแก้ไขกฎหมาย และจะมีการรณรงค์เพื่อไม่ให้เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เงียบเฉยหรือทุกคนเกิดความเคยชิน เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวแล้วเงียบหายไป ซึ่งจะมีกิจกรรมและรณรงค์กันในเพจเฟซบุ๊ก  Fight For Mapin เพื่อต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคม

ด้านนางนิราพร เหลืองแจ่ม มารดานายวศิน พร้อมครอบครัว ได้เปิดเผยอย่างเป็นทางการครั้งแรกว่า การจากกันถือเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต และขอให้อภัยกับผู้กระทำกับน้องมะปินและอโหสิกรรมอย่าได้จองเวรกัน แต่ทั้งนี้ทางครอบครัวอยากให้ทางกรมราชทัณฑ์ทบทวนการดำเนินการบำบัดเยียวยา รวมทั้งควบคุมผู้ต้องขัง พร้อมฝากความเป็นห่วงว่าผู้ต้องขังที่มีประวัติก่อเหตุซ้ำซากเช่นคดีนี้ ไม่อยากให้วนกลับมาที่เดิมแล้วกระทำกับผู้คนในสังคม แล้วออกไปเกิดเรื่องราวแบบนี้กับสังคม รวมถึงครอบครัวอื่นๆ อีก จะอยู่กันอย่างไร

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image