อุทธรณ์แก้โทษคุก2ปี”พ.ต.อ.ชาญชัย”คดีติดสินบนตุลาการศาลรธน.ยุบทรท.(คลิป)

ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ จำคุก 2 ปี อดีตผู้กำกับสภ.โพธิ์แก้ว โดยไม่รอลงอาญา คดีติดสินบน 30 ล้าน ให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่จะตัดสินคดียุบพรรคไทยรักไทย

เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้จำคุก 2 ปี พ.ต.อ.ชาญชัย เนติรัฐการ อดีตผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธรโพธิ์แก้ว อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม คดีที่อัยการฟ้อง ฐานขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงานในตำแหน่งตุลาการ เพื่อจูงใจให้กระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ กรณีเสนอเงิน 30 ล้านบาทให้ มล.ไกรฤกธิ์ เกษมสันต์ อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ช่วยเหลือในการพิจารณาคดียุบพรรคไทยรักไทย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 ถึง 22 ตุลาคม 2549 (คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกพ.ต.อ.ชาญชัย 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา )

ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมพร้อมปรึกษาหารือกันแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าพ.ต.อ.ชาญชัย เป็นเพื่อนรุ่นมหาวิทยาลัย กับ มล.ไกรฤกธิ์ รวมถึงนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งขณะนั้นมีการพิจารณาคดียุบพรรคไทยรักไทย ต่อมา มล.ไกรฤกธิ์ ได้รับเลือกเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และเป็นประจักษ์พยานเบิกความว่า พ.ต.อ.ชาญชัย ได้เข้าพบเพื่อแสดงความยินดี ทั้งที่ทำงาน และที่บ้าน พร้อมเสนอค่าตอบแทน 15 ถึง 30 ล้านบาท วิ่งเต้นคดียุบพรรคไทยรักไทย มล.ไกรฤกธิ์ จึงได้ทำบันทึกเรื่องดังกล่าวถึงประธานศาลฎีกา และเล่าให้พยานแวดล้อมฟัง ขณะที่พ.ต.อ.ชาญชัย อ้างว่าเป็นการพูดหยอกล้อกับ มล.ไกรฤกธิ์ เท่านั้น

Advertisement

คดีติดสินบน

ศาลเห็นว่า โจทก์ มีมล.ไกรฤกธิ์ เบิกความยืนยันข้อเท็จจริง และพยานเบิกความสนับสนุน ซึ่งคำเบิกความมีความสอดคล้องตรงกัน ถึงแม้จะมีพยานปากเดียว แต่มล.ไกรฤกธิ์ และพ.ต.อ.ชาญชัย ไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน และมล.ไกรฤกธิ์ เป็นผู้มีความซื่อสัตย์ สุจริต ได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และตำแหน่งต่างๆ ที่สำคัญต่อบ้านเมือง ไม่มีเหตุผลที่จะกุเรื่อง โดยปราศจากมูลเหตุความจริง และย่อมเข้าใจว่าที่พ.ต.อ.ชาญชัย พูดเป็นการหยอกล้อหรือไม่ พยานโจทก์มีน้ำหนักมั่นคง ว่าพ.ต.อ.ชาญชัย เสนอเงิน 15 ถึง 30 ล้านบาท เพื่อจูงใจ มล.ไกรฤกธิ์ ตัดสินคดียุบพรรคไทยรักไทย

แต่พ.ต.อ.ชาญชัย รับสารภาพ และการนำสืบเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีอยู่บ้าง พิพากษาแก้ ลดโทษเหลือ จำคุก 2 ปี และเนื่องจากเคยรับราชการ แต่กลับกระทำผิดเอง ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย ต่อศาล และเป็นเรื่องร้ายแรง โทษจำคุกจึงไม่รอลงอาญา

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image