เมื่อวันที่ 2 มีนาคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ทหารบุกควบคุมตัวนายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และแกนนำพรรคเพื่อไทย ที่บ้านพักส่วนตัวว่า คงเป็นการเชิญตัวมาปรับทัศนคติว่าอย่าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้และอย่าพูดอะไรให้กระทบกระเทือนใคร และอย่าเพิ่งมาว่าตอนนี้ เพราะไม่ได้ว่าใครอยู่แล้ว
พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ส่วนที่มีหลายคนยังออกมาเคลื่อนไหวทั้งที่ถูกเรียกปรับทัศนคติหลายครั้งนั้น หากพูดร้อยครั้งต้องพูดมาร้อยครั้ง ต่อไปอาจจะต้องเรียกมา 3-7 วัน และหากผิดกฎหมายก็จะต้องว่ากันไปตามกฎหมาย หากพูดแล้วทำให้เกิดความเสียหายในภาพรวมของประเทศและทำให้เกิดความเสียหายของประเทศ และทำให้เกิดความขัดแย้ง ก็จำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย ขออย่าพูดให้เกิดความขัดแย้ง ไม่ได้ว่าอะไร ต้านก็ต้านไป แต่อย่าให้เกิดความขัดแย้งและทำให้เข้าใจผิด
พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ห่วงการเคลื่อนไหวในช่วงที่รัฐธรรมนูญปรับแก้ไข เพราะทุกอย่างจะต้องเดินไป ถือว่าธรรมดาเพราะไม่มีความเคลื่อนไหวมากมาย คนมีตั้ง 70 ล้านคนมีทั้งเห็นชอบและไม่เห็นชอบ แต่สุดท้ายก็มีการเลือกตั้ง ส่วนใครที่เข้าข่ายจะเรียกมาปรับทัศนคติอีกหรือไม่นั้น จำไม่ได้มันเยอะ
พล.อ.ประวิตรยังกล่าวถึงสถานการณ์โดยรวมของประเทศในขณะนี้ ว่ายังไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง แต่เราเพียงต้องการทำให้เป็นแบบสากล ไม่ใช่รอให้เกิดเรื่องก่อนถึงจะทำ โดยวางการปฏิรูปความมั่นคงทั้งประเทศ เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงมาตรการด้านความมั่นคง ว่าจะรวมไปถึงการดูแลการเคลื่อนไหวของพระสงฆ์ด้วยหรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตรปฏิเสธที่จะตอบคำถามดังกล่าว และเดินบ่นออกจากวงสัมภาษณ์ไปทันที
