เลขาสมช. เผยเหตุรุนแรงใต้ลดลง 60% ยันที่โอไอซีไม่ได้สนับสนุนให้มุสลิมแยกตัว ชี้รายชื่อผู้มีอิทธิพลเป็นหน้าที่ของหน่วยข่าวกรอง ระบุรายชื่อนักการเมืองมีอิทธิพลเหตุสร้างความเชื่อมั่นให้ได้รับการเลือกตั้ง แจงยุทธศาสตร์ 20 ปีส่งต่อคนรุ่นใหม่ดูแล
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. กล่าวว่า เหตุการณ์ในสถานการณ์ภาคใต้ที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่าทางกลุ่มยังมีตัวตนอยู่ และยอมรับว่ายังมีเหตุการณ์อยู่แต่สามารถระงับได้และสามารถป้องกันได้มากกว่าเดิม รวมถึงสถิติปี 2557-2558 ลดลงอย่างมากกว่าร้อยละ 60 ขณะเดียวกันมีการปราบปรามอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะทางการข่าวและการพูดคุยสันติสุขต้องดำเนินการต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่สวนทางกับความรู้สึกของประชาชน เนื่องจากไม่ได้เกิดเหตุมานาน
พล.อ.ทวีป กล่าวว่า ขณะที่การประชุมระดับรัฐมนตรีขององค์กรความร่วมมืออิสลาม หรือ โอไอซี ที่ประเทศอินโดนีเซียนั้น มองว่าเลขาโอไอซี ไม่ได้สนับสนุนให้ชาวมุสลิมแยกตัว แต่ได้ยืนยันต่อนายกรัฐมนตรีว่าต้องการเห็นทุกฝ่ายอยู่อย่างเป็นสุข ส่วนกรณีการปล้นปืนยาานวังบูรพาในวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมานั้นไม่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย ซึ่งการเข้ามาของนักท่องเที่ยวจำนานมากนั้นต้องรักษาสมดุลระหว่างการท่องเที่ยวกับความมั่นคง ซึ่งการดูแลขึ้นอยู่กับข่าวกรองโดยพึ่งพาประเทศต่างๆ และข้อมูลจากประเทศเพื่อนบ้านในการตรวจสอบการข้ามพรหมแดน
พล.อ.ทวีป กล่าวว่า ส่วนกรณีแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มองว่าเจตนาของนายกรัฐมนตรีต้องการให้มีการวางวิสัยทัศน์ให้กว้างไกล โดยต้องมีแผนมาสเตอร์แพลนในภาพรวมและแบ่งย่อยเป็นการดำเนินการครั้งละ 5 ปีเหมือนการเตรียมบ้านให้คนรุ่นใหม่ได้ดูแลต่อ ซึ่งแผนดังกล่าวยังคงอยู่ระหว่างการพิจารณาโดยไม่ได้นำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี
พล.อ.ทวีป ยังกล่าวว่าถึงเรื่องรายชื่อผู้มีอิทธิพลนั้น เป็นเรื่องของประชาคมข่าวกรองทั้งหมด โดย สมช.ดูแค่ภาพรวมเท่านั้น และยังไม่ได้เห็นรายชื่อ ส่วนที่มีรายชื่อนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องนั้น อาจเป็นเพราะบุคคลเหล่านี้มีอิทธิพลต่อบุคคลในพื้นที่ในการสร้างความมั่นใจในการที่ตัวเองจะได้รับการเลือกตั้ง
