เมื่อตีสามที่ผ่านมา ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งเหตุแม่ผูกคอลูกสาวเสียชีวิต ภายในหอพัก ย่านถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจัตร กทม. โดยที่เกิดเหตุอยู่ฝั่งตรงข้ามเรือนจำคลองเปรม บริเวณชั้น 3 ห้อง 308 พบ น.ส.ยลวดี สายเครือคำ อายุ 52 ปี อาชีพแม่บ้าน อยู่ ม.3 ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นั่งร้องไห้ ข้างศพ ด.ญ.ชาธิญา วงศ์ทอง อายุ 15 ปี อยู่ ม.1 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี บุตรสาว สภาพศพนอนหงายอยู่บนเตียง สวมเสื้อแขนสั้นสีชมพู กางเกงขายาวสีส้ม บริเวณคอมีรอยช้ำ และพบยาไดอะซีแพม (Diazepam) สีเหลือง ประมาณ 30 เม็ด อยู่ที่เตียง และที่ประตูห้องมีโซ่ยาวประมาณ 1 เมตร แขวนไว้ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน น.ส.ยลวดี ให้การว่า ตนมีอาชีพเป็นแม่บ้านรับจ้างทำความสะอาด และมีบุตรสาวคนแรก โดยลูกสาวมีอาการเป็นเด็กออทิสติกตั้งแต่กำเนิด เคยเข้าศึกษาโรงเรียนวัดมหาบุศย์ ชั้นประถมศึกษา แต่ก็ต้องลาออก เพราะมีอาการผิดปกติ ก่อนเข้ารักษาตัวที่สถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต ย่านดินแดง ปี 2549 ก่อนหน้านี้ ตนกับสามีช่วยกันเลี้ยงดูลูก กระทั่งสามีได้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอด เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ตนจึงต้องเป็นเสาหลักครอบครัว รับภาระมาโดยตลอด จึงมีความเครียดสะสม ต้องกินยานอนหลับ จำนวน 2 เม็ด ทุกวัน เพื่อให้นอนหลับจะได้ตื่นเช้าไปทำงานหาเงินจ่ายค่าห้องเช่า ค่ายา ค่ารักษาต่างๆ ขณะไปทำงานต้องใช้โซ่ล็อกห้องไว้ เพราะลูกสาวชอบเปิดประตูออกไปนอกห้อง
น.ส.ยลวดี กล่าวอีกว่า ตนรับภาระไม่ไหว พยายามจะฆ่าลูกสาวมานานแล้ว และหาวิธีที่ทรมานน้อยที่สุด กระทั่งตอนเช้า วันที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมา ตนได้ลาออกจากงานแล้วมานอนกับลูกสาวในช่วงเวลาประมาณ 09.00 น. ก่อนใช้ผ้าในห้องรัดคอจนเสียชีวิต และนอนอยู่กับลูกสาวจนหลับไป จากนั้นเมื่อตื่นมา จึงไปซื้อเบียร์ 3 ขวดมากิน พร้อมยานอนหลับหลายเม็ด หวังฆ่าตัวตายตามลูกสาว แต่ก็อาเจียนออกมาจนหมด ก่อนหมดสติไป และตื่นมาตอนช่วงเวลา 02.30 น. จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ
ขณะที่ตำรวจเปิดเผยว่า จากการสอบสวน น.ส.ยลวดี เบื้องต้นรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าลูกสาวตนเอง แต่ยังมีอาการมึนเมาสุราและร้องไห้ ต้องให้สงบสติอารมณ์ก่อน จึงทำการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อดำเนินการต่อไป
