หลังศาลอาญาได้พิพากษาจำคุกนายวิวัฒน์ ยอดประสิทธิ์ หรือมือปืนป๊อปคอร์น ในความผิดฐานร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินรวม 37 ปี 4 เดือน จากเหตุรุนแรงบริเวณไอทีสแควร์หลักสี่ เมื่อครั้งม็อบนกหวีดนำมวลชนเดินทางไปขัดขวางการเลือกตั้ง
ทำให้บรรดาอดีตแกนนำและสมาชิก กปปส. ก็ออกมาให้ความเห็นว่าเรื่องคดีของป๊อปคอร์นคงจะอุทธรณ์และฎีกาต่อไปจนคดีถึงที่สุด ตามรูปคดีพอมีช่องทางสู้ได้ แม้ไม่หลุดแต่โทษก็น่าจะลดลง และ กำลังหารือกันอยู่ว่าจะตั้งเป็นรูปกองทุนเปิดบัญชีธนาคารไว้สำหรับผู้ที่อยากช่วยเหลือ เพราะฝ่ายกปปส.มองว่ามือปืนป๊อบคอร์นเป็นฮีโร่ ที่ช่วยชีวิตผู้ชุมนุม กปปส.ไว้
อ.พิชญ์มองว่ามือปืนป๊อบคอร์นคงมีความหวังดีที่จะช่วยเหลือคน แต่วิธีการช่วยนั้นผิดทั้งในฐานการพยายามฆ่า พกพาอาวุธปืน และฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉินด้วย แต่ก็ตั้งคำถามว่าหากยึดเรื่องการฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉินเป็นที่ตั้งแล้ว ก็ย่อมต้องมีคนได้รับผิดอีกหลายคน ไม่ใช่แค่มือปืนป๊อบคอร์นเท่านั้น แต่คดีนี้ยังมีคนอื่นรอด
ขณะที่คุณสุรนันทน์มองว่าการประท้วงรัฐบาลสามารถทำได้โดยสันติตามกฎหมาย การที่มีคนออกมาช่วยโดยใช้อาวุธนั้นผิดกฎหมายแน่นอน และคำถามคือมือปืนป๊อบคอร์นไปเอาอาวุธสงครามมาจากไหน และอีกฝ่ายที่ยิงต่อสู้กันเป็นใครบ้าง
อย่างไรก็ตามการก้าวข้ามไปสู่ความปรองดอง ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลชุดนี้พยายามทำนั้น ก่อนอื่นต้องทำให้คนในสังคมได้รู้ข้อเท็จจริงก่อน ต้องมีกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นพื้นฐานของการตัดสินคดี เพื่อไม่ให้สังคมเกิดการสับสน เพราะหากไม่เกิดข้อเท็จจริง ก็จะไม่เกิดบทเรียน เช่นเดียวกับ อ.พิชญ์ที่มองว่า ความยุติธรรมระยะเปลี่ยนผ่าน อย่าไปตัดตอนกระบวนการ ซึ่งไม่ใช่แค่คดีของกปปส.เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงคดีการปราบปรามการชุมนุมอื่นๆด้วย เนื่องจากเหตุการณ์เหล่านี้เป็นข้อขัดแย้งใหญ่ที่ต้องค้นหาความจริงให้เจอ
ติดตามรายการ “The Hel(l)met Show หมวกกันน็อค” ได้ทางมติชนออนไลน์ หรือ ทางช่องทาง Youtube ในช่อง MatichonTV วันจันทร์ – พุธ – ศุกร์ 18.00น.
ดำเนินรายการโดย “ไบค์เกอร์หนุ่มใหญ่” ที่สลัดคราบอาจารย์นักวิชาการ “พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์”
“เจ้าของร้านกาแฟนักปั่นย่านสุขุมวิท” จากอดีตนักการเมืองที่ช่วงนี้ต้องพักงาน “สุรนันทน์ เวชชาชีวะ”
Don’t be insane protect your brain !!!
รักสมอง…ลอง “หมวกกันน็อค” !?
