เมื่อวันที่ 12 มีนาคม คณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ด้านการศาสนา ในคณะกมธ.การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จัดสัมมนา เรื่อง “บทบาทของศาสนาในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน” ที่รัฐสภา ซึ่งมีพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. พร้อมด้วย ผู้แทนทั้ง 5 ศาสนา
พล.อ.เปรม กล่าวเปิดการสัมมนา ตอนหนึ่งว่า ดีใจที่ สนช.เชื่อว่าศาสนาจะช่วยป้องกันการทุจริตในบ้านเมืองของเรา จึงได้เชิญผู้แทนศาสนาต่างๆมาร่วมแลกเปลี่ยนความเห็น เพราะศาสนาไม่ใช่ยาวิเศษแต่เป็นสิ่งวิเศษสำคัญที่จะช่วยเจ้าหน้าที่โดยตรงในการป้องกันและยับยั้งการทุจริตประพฤติมิชอบในบ้านเมืองได้ การทุจริตในบ้านเมืองจะไม่ลดลงเลย แม้จะดีขึ้นแต่คะแนนไม่ขึ้นเลย แต่ส่วนตัวเชื่อว่าศาสนาทั้ง 5 จะเป็นเครื่องมือที่ชี้ให้เห็นว่าการฉ่อฉลบ้านเมืองเป็นเรื่องบาป สอนให้ลูกหลานรู้ว่าการโกงเป็นสิ่งที่น่าอับอายชาติอื่นๆ การถูกกล่าวหาว่าไทยเป็นชาติขี้โกงถือเป็นเรื่องน่าอาย เราจึงควรทำให้ลดลง
พล.อ.เปรม ยังเชื่อว่าทุกคนจะรักชาติ ศาสนาเหมือนที่ตนรัก และศาสนาจะช่วยอบรมสั่งสอนถึงความเลวร้ายในบ้านเมืองให้คนได้รู้ว่าการโกงเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดของบ้านเมือง การโกงชาติตัวเองเป็นสิ่งที่น่าขายหน้าและเกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว เนื่องจากไทยปราบปรามการโกงช้า ช้าจนคิดว่าอาจทำให้บ้านเมืองแย่ลง ทั้งนี้การคอร์รัปชั่นคือการปล้นชาติ โดยคนในชาติเราเองซึ่งถือเป็นเรื่องที่อันตรายที่สุด เราจึงควรเราที่ตัวเอง โดยเฉพาะเยาวชนที่จะต้องให้รับรู้ตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ถ้าเทคโนโลยีสามารถทำได้ ว่าเกิดมาต้องไม่โกง รวมถึงธรรมาภิบาลที่ทุกคนต้องมี
ทั้งนี้ ภายหลังการเปิดงานเสวนา ผู้สื่อข่าวถามพล.อ.เปรม ว่า ได้ให้กำลังใจพล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป สปท. อย่างไรบ้าง พล.อ.เปรม กล่าวว่าได้พูดไปหมดแล้ว ไม่มีอะไรเพิ่มเติม และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เหนื่อยไหมที่พูดเรื่องการทุจริตอยู่เสมอแต่การทุจริตไม่ได้ลดลงเลย พล.อ.เปรม กล่าวว่า “ก็ใช่”
