สาวตะลึง! เก๋งถูกมือดีทำลายเละ ดูกล้องวงจรปิดถึงอึ้ง ถูกแก๊งหมารุมแทะ(คลิป)

จากกรณีของหญิงสาวรายหนึ่ง นำรถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีดำ หมายเลขทะเบียน กน 1105 ราชบุรี จอดไว้หน้าหอพักแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองราชบุรี แล้วถูกฝูงสุนัขจรจัดรุมกัดแทะจนรถพังเสียหายแทบทั้งคัน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว สาวร่ำไห้โฮ! รถเก๋งคันใหม่โดนฝูงหมาจรจัด รุมขย้ำจนพังเละไปทั้งคัน

ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 4 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีดังกล่าว พบว่าเจ้าของรถเก๋งคือ น.ส.สมนึก เสมคำ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 158/1 หมู่ที่ 9 ต.บ้านคา อ.บ้านคา จ.ราชบุรี แม่ค้าขายเสื้อผ้าอยู่ในห้างใหญ่กลางเมืองราชบุรี ที่มาเช่าหอพักอยู่ในซอยศรีสุริยวงศ์ ซอย 2 ถนนศรีสุริยวงศ์ เขตเทศบาลเมืองราชบุรี
จากนั้น น.ส.สมนึก ได้พาไปชี้จุดที่จอดรถซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับหอพักเพียงเล็กน้อย รวมทั้งได้พาไปดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่เพื่อนบ้านข้างหอพักติดตั้งไว้แล้วเปิดดูเผยให้เห็นว่ามีสุนัขมากกว่า 6 ตัวมารุมกัดรถจนสัญญาณกันขโมยดังขึ้น ก่อนที่น.ส.สมนึก จะลงจากหอมาดู

น.ส.สมนึก เล่าว่า ตนจอดรถเก๋งคันดังกล่าวไว้บริเวณริมกำแพงด้านหน้าหอพัก โดยจอดแบบนี้มากว่า 2 ปีแล้ว ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร กระทั่งเวลาประมาณ 02.45 น. วันที่ 3 ต.ค. ที่ผ่านมา จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงสัณญาณกันขโมยดังนานผิดปกติ ตนจึงรีบลุกลงมาดูถึงกับเข่าทรุด เมื่อพบว่าด้านหน้ารถของตนเละ กันชนหน้ารถหลุดออกมากองอยู่ที่พื้น กระจก สายไฟ รวมทั้งสายท่อที่ปัดน้ำฝน ถูกรื้อกระจัดกระจายเกลื่อนถนน ตนร้องไห้ออกมาด้วยความตกใจ เพราะแรกนั้นคิดว่าเป็นฝีมือคนมาแกล้ง แต่เมื่อเข้าไปดูรถใกล้ๆ ก็พบว่ามีรอยเท้าสัตว์ ขนสุนัข รวมทั้งรอยฟันกัดแทะเต็มไปหมด จึงคิดมั่นใจว่าน่าจะเป็นฝีมือสุนัขมากกว่า

Advertisement

หลังจากนั้นจึงได้ไปขอดูกล้องวงจรปิดจากบ้านใกล้เคียง ก็พบว่ามีสุนัขจรจัดประมาณ 6-7 ตัวมารุมกัดที่รถโดยไม่รู้สาเหตุ แต่ตนคาดว่าน่าจะมีตัวอะไรวิ่งเข้ามาที่รถ ทำให้สุนัขตามมาและรุมกัดเพื่อจะหาตัวที่วิ่งมาที่รถ กระทั่งสัญญาณกันขโมยดังขึ้น กลุ่มสุนัขดังกล่าวจึงได้วิ่งหนีไป

น.ส.สมนึก เล่าอีกว่า หลังเกิดเหตุแล้วตนได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองราชบุรี และแจ้งให้ทางเทศบาลเมืองมาช่วยจับสุนัขจรจัดเหล่านี้ เพราะกลัวว่าจะไปสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นอีก แต่ก็ยังไม่มีใครมาจับไป ขณะที่ทำร้ายสุนัขก็ไม่ได้ จึงได้แต่คิดว่าน่าจะเป็นเวรกรรมของตนที่เคยไปทำกับพวกเขาไว้ อย่างไรก็ตามตนได้แจ้งไปยังบริษัทประกันให้ช่วยนำรถไปซ่อม ซึ่งบริษัทก็นำรถไปซ่อมให้ แต่บอกว่าไม่เคยเจอกรณีแบบนี้ ซึ่งถือว่าหนักมาก และหากรถซ่อมเสร็จแล้วยังไม่มีการมาจับสุนัขไป ตนก็คงไม่กล้านำรถมาจอดอีกแล้ว คงจะเอาไปฝากไว้ที่สำนักงานเทศบาล หรือยอมเสียเงินค่าฝากรถดีกว่าเพื่อความสบายใจ

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image