ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาเรื่อง “ฝนตกหนักบริเวณประเทศไทย (มีผลกระทบถึงวันที่ 11 ตุลาคม 2560)” ฉบับที่ 11 ว่า ประเทศไทยจะมีฝนตกชุกหนาแน่น กับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีลมกระโชกแรงบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังในที่ราบลุ่มต่อไปอีก 1 วัน
คาดว่าพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะอากาศตามภาคต่าง ๆ มีดังนี้ ในวันที่ 11 ตุลาคม 2560
ภาคเหนือ บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง อุตรดิตถ์ สุโขทัย กำแพงเพชร และตาก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณจังหวัดเลย ขอนแก่น ชัยภูมิ และนครราชสีมา
ภาคกลาง บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี ชัยนาท อุทัยธานี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และ ราชบุรี ภาคตะวันออก บริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด ภาคใต้ บริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดในระยะนี้ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
สถานการณ์น้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่ จ.ชัยนาท ปริมาณ ล่าสุดตรวจสอบพบว่าน้ำจากภาคเหนือที่ไหลผ่าน จ.นครสวรรค์ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช้าวันนี้วัดได้2,630ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้เขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเมื่อวาน2,188ลบ.ม.ต่อวินาที เป็น2,386ลบ.ม.ต่อวินาที่ ส่งผลให้พื้นที่ท้ายเขื่อนตั้งแต่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ลงไป จ.สิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก40-50ซ.ม.และตรวจสอบล่าสุด อ.สรรพยามีบ้านเรือนได้ารับผลกระทบแล้วกว่า600หลัง
โดยผู้อำนวยการศูนย์ ปภ.เขต 16 ชัยนาทแจ้งเตือนถึงประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยาใน 4หวัดคือ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท จ.สิงห์บุรี จ.อ่างทอง และ จ.พระนครศรีอยุธยา ขอให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพราะเขื่อนเจ้าพระยาจะมีการปรับเพิ่มการระบายน้ำ เพื่อรองรับปริมาณน้ำเหนือ โดยมีเป้าหมายอยู่ที่2,600ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ1เมตร และจะทำให้้พื้นที่น้ำท่วมขยายวงกว้างและรุนแรงขึ้น
ส่วนที่เขื่อนอุบลรัตน์ระดับน้ำเต็ม และอยู่เกณฑ์เกินระดับกักเก็บเนื่องจากมี น้ำไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง ทำในขณะนี้เขื่อนอุบลรัตน์มีปริมาณกักเก็บอยู่ที่ 2,500 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 103 ของความจุอ่าง จากปริมาณกักเก็บของเขื่อนสามารถรับน้ำได้ที่ 2,431 ล้าน ลูกบาศก์เมตร ขณะที่การระบายน้ำยังคงระบาย 35 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนปริมาณที่ไหลเข้าเขื่อนขณะนี้ มีปริมาณมากกว่าวันละ 120 ล้านลูกบาศก์เมตร
