ฟังสาเหตุเสียชีวิต8ศพ’เอสซีบีปาร์ค’จาก’กก.ผจก.ใหญ่’ไทยพาณิชย์ฯ-ผบก.น.2(คลิป)

ความเคลื่อนไหว ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ หลังเกิดเหตุ ระบบดับเพลิงอาคารเอสซีบีปาร์ค ทำงานอัตโนมัติ ขณะผู้รับเหมาเข้าไปต่อเติมเพิ่มประสิทธิภาพระบบดับเพลิง ซึ่งเหตุดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อค่ำวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา

ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สำหนักงานใหญ่  นายญนน์ โภคทรัพย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการเข้าไปทำงานต่อเติมเพิ่มประสิทธิภาพระบบการดับเพลิง ไพโรเจนในอาคารแต่ขณะปฏิบัติงานเกิดมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว พร้อมยืนยันว่า ที่ผ่านมา ธนาคารไทยพาณิชย์ ใช้บริษัทที่มีมาตรฐานสูงมาโดยตลอด

Advertisement

ด้าน พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2(ผบก.น.2) เปิดเผยความคืบหน้าเหตุระบบป้องกันอัคคีภัยขัดข้อง ที่ชั้นใต้ดินอาคารเอสซีบีปาร์ค ของธนาคารไทยพาณิชย์ ว่าได้สอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บ ญาติของผู้เสียชีวิต และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ประมาณ 10 ปาก เบื้องต้นทราบว่าธนาคารได้ว่าจ้างบริษัท เมก้า แพลนเน็ต จำกัด เป็นผู้ดูแลระบบป้องกันอัคคีภัย และได้ว่าจ้างผู้รับเหมาช่วงต่อ

พล.ต.ต.เจริญ กล่าวว่า ซึ่งอยู่ระหว่างเรียก บริษัท เมก้าแพลนเน็ต เจ้าหน้าที่ธนาคาร วิศวกรอาคาร ผู้วางระบบความปลอดภัย และผู้เชี่ยวชาญ มาสอบปากคำ เพื่อหาสาเหตุว่าเกิดจากความประมาทหรืออุบัติเหตุ แต่ระบบป้องกันอัคคีภัยจะทำงานเมื่อสัมผัสกับความร้อน ควัน และไฟ โดยยังไม่สามารถยืนยันสาเหตุได้ โดยคาดว่าจะสามารถสรุปสาเหตุได้ในสัปดาห์นี้

Advertisement

ผบก.น.2 กล่าวอีกว่า ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร จะเข้าตรวจสอบเก็บหลักฐาน รวมถึงเครื่องมือที่นำไปใช้ดูแลระบบป้องกันอัคคีภัย ในวันนี้ และเหตุที่เกิดขึ้นยังไม่พบความเชื่อมโยงกับเหตุไฟไหม้ เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2558 แต่มีลักษณะของการเกิดเหตุคล้ายกัน

สำหรับยอดผู้เสียชีวิต ยืนยันทั้งหมด 8 ราย จากเหตุถังบรรจุก๊าซไพโรเจน ซึ่งเป็นสารดับเพลิง ภายในอาคารจอดรถชั้นใต้ดิน ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ถนนรัชดาภิเษก ทำงาน ซึ่งหลักการจะทำให้ก๊าซออกซิเจนหมดไป ทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 5 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 3 ราย รวมเป็น 8 ราย/ชาย 6 ราย และหญิง 2 ราย ทราบชื่อ 1 ราย ซึ่งทั้งหมดถูกนำส่งมาชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของธนาคาร 1 คน และที่เหลือเป็นพนักงานผู้รับเหมา และมีผู้บาดเจ็บ 7 คน เป็นผู้ชายทั้งหมด ซึ่งขั้นตอนจะเริ่มจาก เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานทำการเก็บตัวหลักฐานจากศพผู้เสียชีวิต จากนั้นแพทย์จึงจะเริ่มทำการผ่าพิสูจน์

พล.ต.ต.นพ.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ระบุว่า การชันสูตรจะเริ่มต้นบ่ายนี้ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน เบื้องต้นยังไม่พบบาดแผลของผู้เสียชีวิต และจะต้องทำการพิสูจน์ทราบว่าผู้เสียชีวิตนั้น เสียชีวิตจากการได้รับสารเคมีชนิดใด

ด้านพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาคุณสมบัติของสารไพโรเจนในการดับเพลิง ก่อนสรุปสาเหตุ การรั่วไหลครั้งนี้ ขณะเดียวกันเชื่อเหตุที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ ซึ่งจากการวิเคราะห์ เบื้องต้นมี 2 สาเหตุ คือน่าจะเกิดจาก คนงานเข้าไปทำระบบต่อเติม และกระทบต่อระบบดังกล่าวจึงเกิดเหตุการณ์ ในลักษณะนี้ หรือเกิดจากอุปกรณ์ภายในตัวอาคาร ซึ่งทางธนาคารต้องรวบรวมข้อมูลเพื่อชี้แจงต่อพนักงานสอบสวนอีกครั้ง ส่วนจะมีความเชื่อมโยงกับเหตุเพลิงไหม้บริเวณชั้น 10 เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2558 หรือไม่ ยังไม่สามารถยืนยันได้

สำหรับคุณสมบัติของสารเคมีชนิดดังกล่าว ผบ.ตร.ระบุว่า เป็นสารเคมีชนิดใหม่ที่เพิ่งเคยพบเห็น เนื่องมีลักษณะเป็นผงเมื่อมีปฎิกิริยาความกระทบจะถูกปล่อยออกมาเพื่อลดปริมาณออกซิเจนในอากาศ จึงต้องกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมก่อนจะสรุปว่าจะต้องจัดอยู่ในพวกสารควบคุมหรือไม่

ด้านบรรยากาศในเช้าวันนี้ พนักงานยังคงเดินทางมาทำงานกันตามปกติ เนื่องจากอาคารส่วนอื่นไม่ได้รับผลกระทบ มีเพียงบริเวณชั้นใต้ดินของอาคารเอสซีบีปาร์คเท่านั้น ที่เจ้าหน้าที่กั้นไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่ ขณะเดียวกันมีสื่อมวลชนจากหลายที่เดินทางมาติดตามความเคลื่อนไหวกรณีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด  และในช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย จะเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

สำหรับอาคารเอสซีบีปาร์คชั้น 10 เคยเกิดเหตุเพลิงไหม้มาแล้ว เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธุ์ 2558 ที่ผ่านมา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image