ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายไพฑูรย์ คล้ายมั่ง หัวหน้าสำนักงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ และคณะเจ้าหน้าที่ ร่วมกันเป็นคนกลางและเป็นสักขีพยานให้กับนางเอ (นามสมมุติ) ซึ่งต้องการมอบเงินสด 3 แสนบาท ให้กับนายบี(นามสมมุติ) หรือที่รู้จักกันในชื่อ‘ลูกเทพ’ หลังก่อเหตุใช้ก้อนหินทุบรถที่จอดอยู่ภายในบริเวณสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษกว่า 10 คัน เนื่องจากขอเงินแม่ไม่ได้จนเป็นข่าวใหญ่มาก่อนหน้านี้
นายไพฑูรย์ บอกว่า จากกรณีที่แม่ของลูกเทพ เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษว่า ลูกชายได้ขอเงินหลายครั้ง ครั้งละจำนวนมาก เมื่อปฏิเสธก็มักจะข่มขู่ ใช้ความรุนแรง และก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนและผู้อื่นทำให้ได้รับความเดือดร้อนเสียหาย อับอาย และหวาดระแวง ไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติสุข โดยระยะนี้ลูกชายได้ขอเงินอีก 3 แสนบาท ซึ่งแม่ของลูกเทพกังวลใจว่า หากไม่ยินยอมมอบเงินให้ลูกชายอาจจะมีอาการเครียดและก่อเหตุรุนแรงทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อนอีก ทั้งแม่และลูกเทพจึงได้เข้าพบเจ้าหน้าที่เพื่อให้ช่วยเป็นพยานในการมอบเงินให้ เพื่อให้ลูกเทพนำไปใช้เป็นทุนในการศึกษา โดยลูกเทพได้ขอให้สังคมให้โอกาสกลับตนเป็นคนดี ซึ่งวันนี้ตนได้ให้ทำบันทึกข้อตกลงไว้
สำหรับข้อตกลงที่แม่ทำกับลูกเทพ สรุปใจความได้ว่า มารดาตกลงว่าจะมอบเงิน 3 แสนบาทให้แก่บุตรตามความประสงค์ ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ โดยเป็นเงินก้อนสุดท้ายในชีวิตที่จะมอบให้แก่บุตร นับจากนี้เป็นต้นไปหากบุตรยังคงรบกวนมารดาไม่ว่าโดยวิธีการใด และส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตตามปกติสุขหรือเป็นการละเมิดสิทธิของมารดาหรือบุคคลอื่น
มารดาย่อมดำเนินการกับบุตรทั้งโดยกระบวนการยุติธรรมทางแพ่งและทางอาญาจนถึงที่สุด และบุตรขอสาบานต่อองค์พระราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษด้วยว่า จะขอรับเงินจากมารดาในวันนี้เป็นครั้งสุดท้ายของชีวิต โดยจะไม่รบกวนมารดาต้องเดือดเนื้อร้อนใจอีกต่อไป จะไม่ก่อความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น จะใช้จ่ายเงินที่ได้รับจากมารดาไปในทางที่ถูกต้องเหมาะสม ประหยัด มัธยัสถ์ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อชีวิต หากผิดต่อคำสาบานที่ให้ไว้นี้ ขอให้ถูกลงโทษทั้งโดยกฎหมายและกฎแห่งกรรมอย่างสาสม
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าหลังจากลูกเทพได้รับเงิน 3 แสนบาทจากแม่มาไว้ในกำมือแล้ว ได้เข้าไปกราบเท้าแม่และกอดแม่ ทำให้ผู้เป็นแม่ถึงกับน้ำตาไหลอาบแก้ม จากนั้นทั้งแม่และลูก ได้แยกย้ายกันกลับไป
