ลุยดูน้ำท่วมอยุธยา อธิบดีกรมชลฯยืนยัน รังสิต ปทุมฯ นนทบุรี กทม.ปลอดภัย เตือนใต้น่าห่วง(คลิป)

อธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่มอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ชาวบ้านจ.อยุธยา เตรียมสำรวจความเสียหายทำแผนรับมือน้ำก่อนเสนอ ครม. ยืนยันน้ำในพื้นที่รังสิตไม่น่าห่วง ชี้ไม่มีฝนตกเพิ่ม น้ำทะเลไม่หนุน

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นและมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ แก่ประชาชนผู้ประสบภัยน้ำเอ่อล้นตลิ่งจากแม่น้ำเจ้าพระยา ในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านแป้ง อ.บางปะอิน และที่วัดดอนลาน อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ 2 ใน 12 ทุ่งรับน้ำ คือ ทุ่งป่าโมก และทุ่งผักไห่ ซึ่งใช้เป็นทุ่งรับน้ำ 145,733 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 4 อำเภอ คือ อำเภอผักไห่ อำเภอบางบาล อำเภอเสนา อำเภอบางซ้าย จังหวัดอ่างทอง อำเภอป่าโมก และจังหวัดสุพรรณบุรี อำเภอบางปลาม้า

โดย อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า พื้นที่รับน้ำในทุ่งป่าโมก และทุ่งผักไห่ เป็นไปตามแผน แต่ปริมาณน้ำมามากกว่าแผน เพราะฝนตกในพื้นที่และน้ำเหนือจำนวนมาก ทำให้พื้นที่ดังกล่าวต้องรับน้ำมากกว่าเดิม ซึ่งกรณีดังกล่าวกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะสำรวจพื้นที่ความเสียหาย จุดเสียหายเพื่อยกระดับถนนให้ประชาชนสามารถสัญจรได้ต่อไปหากเกิดน้ำท่วม รวมถึงจะสอบถามความต้องการของประชาชนและปรับข้อมูลข่าวสารให้เป็นไปผ่านจุดเดียว เนื่องจากที่ผ่านมามีข่าวลือในโซเชียลมีเดียจำนวนมาก โดยจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ก่อนเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป พร้อมย้ำว่า ได้พยายามขีดกรอบจำกัดพื้นที่น้ำให้ควบคุมได้ไม่ให้เหตุการณ์ซ้ำรอยแบบปี 54

Advertisement

ส่วนการระบายน้ำจะระบายจากตอนบนลงสู่ตอนล่าง หลังจากระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนและแม่น้ำเจ้าพระยาลดลงจะเริ่มทยอยระบายน้ำจากทุ่งบางระกำในอีก 7 วัน และเมื่อระดับน้ำทะเลลดลงจะเร่งระบายน้ำโดยใช้เครื่องสูบน้ำกับประตูระบายน้ำและคลองลัดโพธิ์ ซึ่งจะติดตั้งเรือผลักดันน้ำจากกองทัพเรือ กว่า 50 ลำ โดยการระบายน้ำจนเหลือไว้ 20% สำหรับเพาะปลูกในฤดูแล้ง  ในส่วนปริมาณน้ำบริเวณรังสิตไม่น่าเป็นห่วง เนื่องจากการคาดการณ์ปริมาณฝนในสัปดาห์นี้ไม่มี และในหลายพื้นที่ฝนตกลงมาน้อยกว่า 20 ม.ม. ทำให้หลายพื้นที่ไม่มีน้ำเติมเข้าพื้นที่ ขณะที่ด้านน้ำเหนือก็ลดลง เช่นเดียวกับน้ำทะเลหนุนอยู่ในช่วงลดลง โดยจะเร่งระบายน้ำภายใน 1 สัปดาห์ซึ่งจะไม่กระทบกับพื้นที่สองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

ส่วนปริมาณน้ำในภาคกลางนั้น นายสมเกียรติ กล่าวว่า ปริมาณรับน้ำสูงสุดผ่านไปแล้ว ตอนนี้น้ำทะเลอยู่ในช่วงขาลง ยืนยันว่าทุกอย่างอยู่ในช่วงขาลง และจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงปลายเดือน พ.ย. ถึงต้นเดือน ธ.ค. ขึ้นอยู่กับระดับน้ำทะเล แต่ตอนนี้ที่น่าเป็นห่วงคือภาคใต้ซึ่งได้ทำแผนบริหารจัดการน้ำและแจ้งเตือนไปแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image