เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 10 พฤศจิกายน 2560 เกิดเหตุรถแท็กซี่ชนตอม่อใต้ทางด่วนจนเกิดเพลิงไหม้และมีผู้เสียชีวิตติดอยู่ในรถ บริเวณถนนเลียขึ้นทางด่วนศรีรัช วงแหวนรอบนอก ด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษบางพลัด แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด กทม.
ที่เกิดเหตุบริเวณเสาตอม่อทางด่วนหมายเลข MLP 10-24 ซึ่งแบ่งกลางระหว่างถนนฝั่งมุ่งหน้าเข้าสู่ด่านเก็บเงินและถนนเลียบทางด่วนฝั่งที่จะมุ่งหน้าไปสถานีรถไฟบางบำหรุ เจ้าหน้าที่พบอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยกำลังช่วยกันฉีดน้ำควบคุมเหตุเพลิงไหม้รถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้ารุ่นอัลติส สีเขียว-เหลือง เลขทะเบียน 1 มข 852 กรุงเทพมหานคร ซึ่งสภาพด้านหน้าชนอัดก๊อบปี้ติดอยู่กับเสาตอม่อจนตัวถังยุบถึงภายในห้องโดยสาร โดยเพลิงลุกไหม้จากห้องเครื่องและลุกลามอย่างรวดเร็วจนรถได้รับความเสียหายทั้งคัน ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีเพลิงจึงสงบ
จากการใช้อุปกรณ์ตัดถ่างงัดซากรถเพื่อทำการตรวจสอบ บริเวณที่นั่งคนขับพบศพผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือนายทองจันทร์ ปะติคา อายุ 49 ปี ชาว จ.กาฬสินธุ์ สภาพศพถูกไฟไหม้เกรียมจนเหลือแต่หนังติดกระดูก นอกจากนี้ ที่เบาะหลังด้านซ้ายยังพบศพผู้โดยสารอีก 1 ราย เป็นหญิงสาวรูปร่างเล็ก สภาพศพถูกไฟไหม้จนดำเป็นตอตะโกเช่นกัน เบื้องต้นไม่พบเอกสารสำคัญใดๆ ติดตัว นอกจากร่องรอยคล้ายเจลและแผ่นซิลิโคนสำหรับศัลยกรรมหน้าอกถูกความร้อนละลายติดอยู่ที่ลำตัวศพด้านหน้า กับกระดุมกางเกงยีนส์ยี่ห้อแมค ซึ่งละลายติดอยู่ที่หน้าท้องของศพอีก 1 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนนายบุญเรือง ดอกจำปา อาชีพขับรถรับจ้างทั่วไป เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนนำรถกระบะมารับจ้างขนของย้ายบ้านให้ชาวบ้านที่อยู่บริเวณข้างด่านเก็บเงิน สักพักได้ยินเสียงคล้ายรถชนตอม่อดังสนั่นจึงรีบวิ่งออกมาดู พบรถคันดังกล่าวมีเปลวเพลิงลุกไหม้บริเวณห้องเครื่องลุกลามไปถึงพวงมาลัย ตนพยายามใช้น้ำขวดโพลาริสที่หยิบติดตัวไปราดใส่เพื่อดับไฟแล้วแต่เอาไม่อยู่ ซึ่งช่วงนั้นตนได้ยินเสียงหญิงสาวผู้โดยสารยังร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เนื่องจากประตูรถทั้ง 4 ข้างก็เปิดไม่ออก จากนั้นก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะๆ จึงจำเป็นต้องถอยออกห่างเพื่อรอเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและตำรวจรุดมาให้การช่วยเหลือแต่ก็ไม่ทันกาล
ด้านตำรวจเปิดเผยว่า ขณะนี้สามารถยืนยันตัวบุคคลโชเฟอร์ได้แล้ว เนื่องจากพบบัตรประจำตัวผู้ขับขี่ระบุชื่อ นายทองจันทร์ ปะติคา ตกอยู่ใกล้ๆ รถ ประกอบกับโทรศัพท์มือถือของนายทองจันทร์ก็ไม่ได้รับความเสียหายทำให้สามารถติดต่อกลับไปหาญาติที่ จ.กาฬสินธุ์ได้ แต่ในส่วนของผู้โดยสารเพศหญิงที่มาด้วยกัน ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร เนื่องจากเอกสารสำคัญน่าจะโดนเพลิงไหม้เสียหายจนหมด โดยหลังจากนี้จะมอบศพผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายให้หน่วยกู้ภัยนำส่งนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อรอญาติมาติดต่อขอทำเรื่องตรวจดีเอ็นเอยืนยันตัวบุคคล ก่อนรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ส่วนสาเหตุคาดว่านายทองจันทร์โชเฟอร์หลับใน หรืออาจตัดสินใจเปลี่ยนช่องทางเดินรถจากหน้าด่านเก็บเงินเข้าสู่ถนนคู่ขนานเลียบทางด่วนกะทันหัน ทำให้รถพุ่งชนตอม่ออย่างจังจนเกิดเหตุการณ์สลดขึ้นดังกล่าว
