“ประวิตร” ลั่น เข้าเรียนเตรียมทหาร ต้องพร้อมโดน ซ่อม- ธำรงวินัย

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีการเสียชีวิตของนายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิต หลัง บิดามารดา นำร่างไปชันสูตรและพบว่าอวัยวะภายในหาย และยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิตว่า ทางกองบัญชาการกองทัพไทยชี้แจงไปหมดแล้ว รวมถึงมีกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน และแจ้งความลงบันทึกประจำวัน ทุกอย่างว่าไปตามระเบียบ และกฎหมาย

อีกทั้งทางแพทย์ได้ประสานไปยังผู้ปกครองให้รับอวัยวะภายในคืนแล้ว 4 ชิ้น ภายหลังการพิสูจน์ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ผ่านมา1 เดือน และทางโรงเรียนเตรียมทหารได้ติดต่อพูดคุยกับครอบครัว รวมถึงการช่วยเหลือจัดงานศาปนกิจศพ ซึ่งตนเห็นใจกับครอบครัว เพราะลูกชายเพียงเดียวพ่อแม่ก็ต้องเสียดาย ทั้งยังเป็นนักเรียนเตรียมทหารด้วย

พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า ตนยืนยันว่าเรื่องชิ้นส่วนอวัยวะที่ถูกตัดไปพิสูจน์นั้นไม่ได้เป็นการปกปิดข้อมูล และทางพนักงานสอบสวนก็ได้รายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว ถือเป็นขั้นตอนทางการแพทย์ และทางพ่อแม่ไม่ได้แจ้งมาว่ายังไม่ได้รับชิ้นส่วนดังกล่าวคืน

Advertisement

“ผมยืนยันว่าเด็กเสียชีวิต เนื่องจากสุขภาพของเอง ไม่มีการซ่อมอะไรทั้งสิ้น เขาป่วย และเชื่อว่าทางโรงเรียนไม่ได้ปิดบังข้อมูล แม้ว่าบริเวณที่เด็กล้มลงจะไม่มีภาพวงจรปิดก็ตาม เพราะหากเสียชีวิต ใครจะมาปิดบังสาเหตุก็ไม่ได้”

เมื่อถามว่า หากเด็กสุขภาพไม่ดี ทำไมถึงเข้าเรียนโรงเรียนเตรียมทหารได้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนอยากทราบเช่นกัน ตอนรับสมัครก็มีแพทย์ตรวจคัดกรองแล้ว แต่อาจมาเป็นช่วงตอนเข้าเรียน เด็กเป็นโรคฮีทสโตรก

ส่วนที่เปิดบันทึกประจำวันของเด็กที่ระบุว่าเขาโดนซ่อมนั้น ผมคิดว่าก็โดนซ้อมกันทุกคน ผมก็เคยโดนมาเหมือนกัน เช่น วิดพื้น วิ่ง สก๊อตจั๊ม ไม่ต้องถูกตัวกัน และการซ่อมไม่ได้มากมายอะไร ขณะเดียวกันประเด็นที่เด็กเคยโดนซ้อมจนหยุดหายใจไปครั้งหนึ่งนั้น เพราะเขาเป็นโรคฮีทสโตรก ซึ่งการเป็นโรคนี้เกิดจากการฝึก หรือแม้แต่ยืนตากแดดเฉยๆก็เป็นเพราะอากาศร้อน ใครจะไปรู้ว่าลูกเขามีภาวะหัวใจล้มเหลวฉับพลัน พร้อมทั้งยืนยันว่าการซ้อมไม่ได้เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน

Advertisement

ถามต่อว่า หากการซ้อม เกินกำลังคนจะรับได้ จะทำอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ผมก็เคยโดนซ่อมจนเกินกำลังจะรับได้ จนสลบไปเหมือนกัน แต่ผมไม่ตาย เรื่องเหล่านี้ก่อนจะรับเด็กเข้ามาต้องตรวจเช็กร่างกายเป็นอย่างดี แต่เข้ามาแล้วเป็นโรคฮีทสโตรกก็ทำให้ร่างกายอ่อนแอ ที่ผ่านมาสัดส่วนนักเรียนเสียชีวิตจากโรคนี้จะน้อย แม้ว่าจะโดนซ้อม แต่ร่างกายแข็งแรง”
ถามอีกว่าจะแก้ไขปัญหาพวกนี้อย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก รองนายกฯประวิตร กล่าวว่า “ก็ไม่ต้องเข้ามาเรียน ไม่ต้องมาเป็นทหาร เราเอาคนที่เต็มใจ”

เมื่อถามย้ำว่า การเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร ต้องเตรียมใจเรื่องการธำรงวินัย ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ใช่

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า เด็กควรที่จะไปตายด้วยเหตุผลอื่น เช่น การออกสงคราม และการต่อสู้กับผู้ร้าย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า กรณีนี้เด็กเสียชีวิต เพราะไม่สบาย ถ้าให้ตนเลือกตายได้ก็ขอตายในสนามรบ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image