แท็กซี่กรรโชกทรัพย์หนุ่มเลบานอน ขึ้นนั่งประกบข้าง

ตำรวจสมุทรปราการพร้อมด้วยตำรวจท่าอากาศยานสุวรรณภูมิร่วมกันตรวจสอบและเก็บลายนิ้วมือแฝงบนรถแท็กซี่สีเขียว-เหลือง หมายเลขทะเบียน มฉ 8715 กทม. ของนายสุนทร รอดทรัพย์ อายุ 45 ปี ซึ่งตรวจยึดได้ที่อู่แห่งหนึ่งในพื้นที่ กทม. และจับกุมนายสุนทรหลังก่อเหตุกรรโชกทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวเลบานอน อายุ 32 ปี

สืบเนื่องจากเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 20 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา ผู้เสียหายได้เดินทางมายังสนามบินดอนเมือง และจะเดินทางมาขึ้นเครื่องกลับประเทศที่สนามบินสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ หลังจากที่ผู้เสียหายเดินออกมาจากอาคารผู้โดยสารที่อากาศยานดอนเมือง เพื่อมาเรียกรถแท็กซี่ให้มาส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ จังหวะนั้นนายสุนทรซึ่งยืนรอรับผู้โดยสารอยู่ด้านหน้าสนามบินได้เดินมาประกบผู้เสียหายพร้อมแนะนำให้มาขึ้นรถแท็กซี่ของตนเอง มีนายวัชฤทธิ์ จันทร์อยู่ เป็นคนขับจอดรออยู่ โดยกำหนดราคาค่าโดยสารที่ 1,000 บาท ด้วยความที่ผู้เสียหายรีบเดินทางมาให้ทันเช็กอินจึงได้ตอบตกลง

ในขณะที่ผู้เสียหายขึ้นนั่งบนรถแท็กซี่คันดังกล่าว นายสุนทรได้ขึ้นมานั่งในรถด้วยก่อนที่นายวัชฤทธิ์จะขับรถออกมา ในระหว่างทางนายสุนทรได้มีการพูดคุยกับผู้เสียหายและทราบว่าผู้เสียหายต้องรีบทำเวลามาเช็กอิน นายสุนทรจึงขอเก็บค่าโดยสารเพิ่มจาก 1,000 บาท เป็น 1,400 บาท และนายสุนทรยังได้ขู่ให้ผู้เสียหายส่งทรัพย์สินและของมีค่ามาให้ ทำให้ผู้เสียหายเกิดความหวาดกลัว ในระหว่างที่แท็กซี่คันดังกล่าวกำลังวิ่งเข้าอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รถยังไม่ทันจอดสนิทผู้เสียหายได้ตัดสินใจเปิดประตูกระโดดลงจากรถเพื่อหวังแจ้งตำรวจ แต่ถูกนายสุนทรวิ่งไล่ตามประกบมา ก่อนจะกระชากเอาหูฟังของผู้เสียหายติดมือไปและวิ่งมาขึ้นรถแท็กซี่คันดังกล่าวหลบหนีออกจากสนามบินไป

Advertisement

จากนั้นผู้เสียหายจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวนายสุนทรเอาไว้ได้ ส่วนนายวัชฤทธิ์ ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ หลังก่อเหตุได้นำรถไปคืนอู่ที่เช่ามาก่อนจะหลบหนีไป ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำล่วงหน้าผู้เสียหายแล้ว เตรียมขออนุมัติหมายจับตัวนายวัชฤทธิ์ ส่วนนายสุนทร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกับพวกที่หลบหนีกรรโชก ก่อนคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สมุทรปราการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการตรวจสอบประวัติของผู้ก่อเหตุทั้งสอง พบว่าเคยขับรถแท็กซี่รับผู้โดยสารในสนามบินสุวรรณภูมิและลงมือก่อเหตุในลักษณะเดียวกันหลายครั้ง และถูกดำเนินคดีมาแล้ว โดยถูกสั่งห้ามเข้าพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยเด็ดขาด จึงหันกลับไปร่วมกันก่อเหตุในพื้นที่สนามบินดอนเมือง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image