ด.ญ.วัย 13 ป่วยตั้งแต่เกิด ร่างกายหดเท่าเด็ก

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านบ้านโนนศิลา หมู่ 18 ต.ผไทรินทร์ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ว่ามีเด็กหญิงป่วยด้วยโรคกระดูกพรุน ไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้ด้วยตัวเอง อยู่อย่างยากลำบาก จึงได้เดินทางไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง

เมื่อไปถึงพบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว นางสงัด มีจันทร์ อายุ 62 ปี ผู้เป็นยายคอยเฝ้าดูแล ด.ญ.พรทิพย์ คำหล่าย หรือ น้องเปีย อายุ 13 ปี หลานสาว ที่ป่วยด้วยโรคกระดูกพรุนอยู่ไม่ห่าง ทั้งคอยเช็ดอุจจาระ-ปัสสาวะ เพราะน้องไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เพียงกินข้าว ดื่มน้ำเองได้เท่านั้น โดยน้องเปีย ป่วยเป็นโรคกระดูกพรุนตั้งแต่เกิดมาได้ไม่นาน ซึ่งระยะแรกก็ยังพอช่วยเหลือตัวเองได้ แต่หลังจากนั้นสภาพร่างกายก็จะไม่ปกติเหมือนคนทั่วไปเพราะกระดูกจะเปราะบาง

ปัจจุบัน น้องเปีย มีสภาพร่างกายหดตัวลงเหลือเท่ากับเด็ก 2 ขวบ อีกทั้งกระดูกยังมีบิดงอจนไม่สามารถเดินไปไหนมาไหน แค่พอขยับตัวได้เท่านั้น และสามารถพูดคุยสื่อสารเข้าใจทุกอย่างแต่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เท่านั้น ทำให้ผู้เป็นยายต้องคอยดูแลอยู่ตลอดเวลา แต่ด้วยฐานะที่ยากจนบางครั้งยาย ต้องปล่อย น้องเปีย อยู่ตามลำพัง เพราะยายต้องออกไปขุดปู และหาปลามาประทังชีวิต เพราะพ่อน้องเปีย เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนแม่ ก็ต้องไปรับจ้างทำงานต่างจังหวัด

Advertisement

นางสงัด เล่าว่า เคยพา น้องเปีย ไปรักษาที่โรงพยาบาล แต่แพทย์บอกว่าน้องเปีย ป่วยด้วยโรคกระดูกพรุนไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ทุกวันนี้ยังพาน้องเปียไปรับยารักษาโรคกระดูกที่โรงพยาบาลลำปลายมาศ เป็นประจำทุกเดือน

สำหรับเงินที่ซื้อข้าวปลาอาหารประทังชีวิตและเลี้ยงดูน้องเปีย ก็ได้มาจากเบี้ยยังชีพคนชราของตัวเองเดือนละ 600 บาท ส่วนน้องเปีย จะมีเพียงเงินเบี้ยคนพิการเดือนละ 800 บาทเท่านั้น ส่วนที่นาที่มีอยู่ 4 ไร่ก็ต้องนำไปจำนองไว้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว จำนวน 32,000 บาท เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในครอบครัวและเลี้ยงดูน้องเปีย

“ทุกวันนี้ลำบากมาก เพราะตนเองก็อายุมากแล้วไม่สามารถออกไปรับจ้างทำงานหนักได้ เมื่อเห็นสภาพหลานสาวก็แอบร้องไห้เพราะสงสารหลานมาก ภาวนาอยากให้หลานหายสามารถใช้ชีวิตได้เป็นปกติเหมือนเด็กทั่วไป และสิ่งที่กังวลคือเกรงว่าตนเองจะเป็นอะไรไปแล้วไม่มีใครดูแลหลาน ซึ่งปัจจุบันก็ได้มีเพื่อนบ้านที่มีเมตตาสงสารคอยหยิบยื่นความช่วยเหลือให้บ้างตามกำลังที่มี จึงอยากวิงวอนผู้ใจบุญช่วยเหลือหลานสาว เช่น รถเข็นที่สามารถให้หลานช่วยเหลือตัวเองได้ เครื่องอุปโภคบริโภค และนมให้หลานกิน และหากเป็นไปได้ก็อยากจะได้ที่นาที่นำไปจำนองคืนด้วย เพราะลำพังตนเองคงไม่มีปัญญา”

หากผู้ใจบุญ หรือผู้มีจิตศรัทธาต้องการช่วยเหลือ สามารถบริจาคได้ที่เลขที่บัญชี 020120813999 ชื่อบัญชี ด.ญ.พรทิพย์ คำหล่าย โดย นางสาวสงัด มีจันทร์ บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ หรือติดต่อเบอร์โทรศัพท์ 093-419-4922

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image