วันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงฤดูหนาว หลังจากชาวนาเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวแล้วเสร็จ มักพบว่าแมลงต่างๆ โดยเฉพาะ “แมงมันข้าว” หรือภาษาอีสานเรียกว่า “แมงมัน” เป็นแมลงจำพวกตั๊กแตนหนวดยาว พบได้ตามเขตร้อน ส่วนใหญ่มีสองสี สีเขียวและสีน้ำตาล (สีฟางแห้ง) ลำตัวยาวประมาณ 3 ซม. ปีกยาวประมาณ 5 ซม. ปากสีชมพู และปีกชั้นในมีสีชมพูสวยงาม ส่วนพันธุ์สีฟางแห้งจะมีสีเดียวตลอดลำตัว พรางตากับหญ้าแห้งได้ดี หนวดของ “แมงมัน” ยาวเท่ากับความยาวของลำตัว มีขาคู่หลังที่เรียวงาม
โดยแมงมันดังกล่าวมักจะชอบบินเข้าไปหาหลอดไฟนีออนในช่วงกลางคืนในระยะนี้จำนวนมาก ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ จ.สุรินทร์ โดยเฉพาะชาวบ้านตาพราม หมู่ 8 ต.เทพรักษา อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ต่างพากันทำที่ดักล่อแมงมัน ด้วยการนำสังกะสีมาติดตั้งกับโครงไม้ในแนวตั้ง พร้อมนำไฟนีออนมาติดตั้งกับสังกะสี ก่อนจะนำถังและกะละมังใส่น้ำมาวางรองไว้ด้านล่าง จากนั้นเมื่อเปิดไฟในช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนจนถึงเวลาประมาณตี 2 แมงมันจะบินไปหาไฟและไปชนกับสังกะสี ก่อนร่วงตกลงไปในถังและกะละมังที่ใส่น้ำรองไว้ ทำให้แมงมันไม่สามารถบินขึ้นจากน้ำได้
จากนั้นชาวบ้านจะมาเก็บแมงมันไปไว้ทำเมนูต่างๆ โดยเฉพาะทอดหรือคั่ว ใส่เครื่องปรุงตามความชอบ ก็สามารถกินเล่นเป็นกับแกล้มหรือรับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ ก็อร่อยอย่าบอกใคร เพราะแมงมันมีรสชาติหอมมันอร่อยเป็นอย่างมาก และหากินได้ปีละครั้งในช่วงหน้าหนาวหลังเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จเท่านั้น หากจับได้จำนวนมากก็จะนำไปขายกิโลกรัมละ 100-150 บาทขึ้นไป แล้วแต่ละพื้นที่ หากกินไม่หมดก็นึ่งแช่ตู้เย็นไว้กินวันหลังได้อีกด้วย
นางจิดาภา ผุดผ่อง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 258 หมู่ 8 บ้านตาพราม ต.เทพรักษา อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ผู้ที่สร้างไฟดักจับแมงมันบอกว่า แมงมันจะออกมาปีละครั้งในช่วงนี้ มีรสชาติมันอร่อย เป็นที่นิยมมาก ตนดักแมงมันไว้กินเองที่บ้าน ไม่ได้ขายเหมือนคนอื่น ส่วนเมนูก็จะทอดกิน ปรุงด้วยรสดีหรือซอสสักหน่อย อร่อยอย่าบอกใคร ที่เหลือก็นึ่งไว้ก่อนนำไปแช่ตู้เย็นไว้กินวันหลัง