ตำรวจโรงพักบ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ตำบลหลักสาม ให้เข้าช่วยเหลือจับงูเหลือมขนาดใหญ่ที่แอบเข้ามากินไก่ โดยบ้านที่พบงูเหลือมขนาดใหญ่นี้คือบ้านเลขที่ 133/2 หมู่ 7 ต.หลักสาม อ.บ้านแพ้ว ที่บริเวณข้างบ้านภายในสุ่มครอบไก่ พบงูเหลือมขนาดใหญ่ ความยาวกว่า 4 เมตร น้ำหนักตัวไม่น้อยกว่า 40 กิโลกรัม ขดตัวอยู่ข้างใน และนอกสุ่มไก่ใกล้ๆ กันยังพบพ่อพันธุ์ไก่ชนนอนตายอยู่หนึ่งตัว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ใช้อุปกรณ์เข้าจับงูตัวดังกล่าว แล้วเอาใส่กระสอบเพื่อไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติต่อไป
จากการสอบถามนายเล็ก อรุณยงค์ อายุ 68 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว เล่าว่า เมื่อช่วงเช้ามืด ตนได้ตื่นนอนขึ้นมาเพื่อมาดูโทรศัพท์ แต่เกิดได้ยินเสียงร้องของไก่ชนที่เลี้ยงไว้ จึงได้เดินมาดูที่เล้าไก่ ก็พบงูเหลือมตัวดังกล่าวกำลังรัดพ่อพันธุ์ไก่ชนที่อยู่ในสุ่ม ทั้งนี้ตนเห็นว่างูเหลือมมีขนาดใหญ่มาก จึงได้เรียกภรรยาออกมาช่วยกันดึงที่หางงูออกมาจากเล้าไก่ เพื่อจะช่วยชีวิตของพ่อพันธุ์ไก่ชนเอาไว้ เพราะเป็นไก่พ่อพันธุ์ที่มีราคาแพงถึง 50,000 บาท แต่ก็ช่วยชีวิตไม่ได้ ส่วนงูเหลือมนั้นตนเองได้เอาสุ่มไก่อีกอันมาครอบไว้และรอจนสายจึงได้แจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ให้มาจับไป
ด้านคุณลุงเล็กยังบอกอีกว่า ตนเคยจับงูเหลือมมาแล้วถึง 4 ตัว ส่วนไก่ชนนั้นถูกงูกินไปแล้วทั้งหมด 7 ตัว ซึ่งที่ผ่านมาตนก็เฝ้าระวังและคอยสังเกตว่าประมาณ 3-4 วัน งูจะเข้ามากินไก่อีกรอบหนึ่งแต่ก็ยังจับไม่ได้ จนในที่สุดก็มาจับเจ้างูเหลือมตัวใหญ่นี้ได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะยังมีกองทัพงูเหลือมตัวอื่นๆ ที่คอยจ้องจะเข้ามากินไก่อีกหรือไม่ ซึ่งก็ต้องเฝ้าระวังกันต่อไป
เจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองชัยนาท เข้าตรวจสอบและจับงู หลังได้รับแจ้งจากเจ้าของร้านมนต์รักราเมง ซึ่งตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน หลักกิโลเมตรที่ 281 ขาล่องพื้นที่ ต.บ้านกล้วย อ.เมืองชัยนาท โดยบนพื้นภายในร้านพบ “งูทางมะพร้าว” หรือ “งูเห่าม้า” ขนาดความยาวประมาณ 70 ซม. หนีไปหลบอยู่ที่บริเวณมุมห้อง
เมื่อเจ้าหน้าที่ใช้ไม้เคาะพื้นเพื่อสกัดการหลบหนี งูตัวดังกล่าวก็ “แกล้งตาย” ด้วยการบิดตัวพลิกเอาด้านท้องขึ้นแล้วนอนอยู่นิ่งๆ ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ยืนดูได้สักพักโดยยังไม่จับตัว เพื่อดูว่างูตัวดังกล่าวตายแล้วหรือไม่ ปรากฏว่าเมื่อเวลาผ่านไปจนเห็นว่าน่าจะปลอดภัยแล้ว งูตัวดังกล่าวก็พลิกตัวชูหัวขึ้นเตรียมเลื้อยหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงใช้มือที่สวมถุงมือป้องกันเขี้ยวจับตัวเอาไว้ ซึ่งเจ้างูตัวดังกล่าวเมื่อสิ้นอิสรภาพก็แกล้งตายอีกครั้ง เป็นที่สงสัยปนขบขันของทั้งเจ้าของร้านและลูกค้า
โดยเจ้าหน้าที่บอกว่างูตัวนี้ค่อนข้างเจ้าเล่ห์ในการเอาตัวรอด โดยเมื่อรู้ว่ามีภัยจากสัตว์นักล่า หรือสัตว์อื่นที่มีขนาดใหญ่กว่า งูชนิดนี้ก็จะแกล้งตาย และเมื่อรู้สึกว่าอันตรายผ่านไปแล้วก็จะรีบพลิกตัว แล้วเลื้อยหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ “งูทางมะพร้าว” หรือ “งูเห่าม้า” เป็นงูไม่มีพิษ จะกินพวกสัตว์ตัวเล็กอย่างกบ เขียด และหนูเป็นอาหาร ไม่ทำอันตรายต่อคน หากเข้าบ้านใครก็ไม่ควรทำร้าย ให้เรียกเจ้าหน้าที่มาช่วยจับไปปล่อยจะดีที่สุด
