เร่งพิสูจน์เก๋งยาริส ใช้ใส่ศพชาวอิตาลี เผานั่งยาง

จากกรณีพบศพของนายจูเซปเป้ เดอ สเตฟานี ชาวอิตาลี วัย 61 ปี ถูกฆ่าเผานั่งยางที่บริเวณป่าข้างบึงน้ำบึงทับจั่น หมู่ 3 ตำบลแหลมรัง อำเภอบึงนาราง จังหวัดพิจิตร ใกล้กับองค์การบริหารส่วนตำบลแหลมรัง เมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา ส่วนคนร้ายตามหมายจับ คือนางรุธจิรา เอี่ยมละม้าย อายุ 38 ปี และนายอาโมรี ริโก สามีชาวฝรั่งเศส อายุ 34 ปี ซึ่งหลังก่อเหตุได้หลบหนีและถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้เมื่อวานที่ผ่านมาก

ที่ สภ.บึงนาราง เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดพิจิตร ลงพื้นที่ตรวจพิสูจน์รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่น ยาริส ทะเบียน กค 1374 สมุทรสงคราม ที่ผู้ต้องหาใช้ขณะหลบหนี ซึ่งเดิมเป็นรถสีบรอนซ์เงิน แต่ขณะที่หลบหนีผู้ต้องหาได้ซื้อสีสเปรย์สีดำมาพ่น จนกลายเป็นสีดำทั้งคัน
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบภายในรถมีสิ่งของเครื่องยังชีพ เช่น ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป กระป๋องสีสเปรย์ และเครื่องครัว โดยรถเก๋งคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจยึดได้ที่บริเวณริมลำธารในเขตรอยต่อ อ.วังเจ้า จ.ตาก กับ อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร โดยการตรวจสอบครั้งนี้เพื่อหาสิ่งที่จะสามารถใช้เป็นหลักฐานเพิ่ม

โดยตำรวจพบรอยคราบเลือดบริเวณด้านท้ายใต้รถ ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย นำศพของนายจูเซปเป้ ขึ้นไปไว้ก่อนที่จะนำศพไปยังบริเวณจุดที่เผานั่งยางทำลายศพ เจ้าหน้าที่จึงเก็บตัวอย่างคราบเลือดเพื่อส่งตรวจว่าดีเอ็นเอตรงกับศพหรือไม่ นอกจากนี้ ยังได้มีการตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงเพื่อจะใช้เป็นวัตถุพยานที่จะสาวไปถึงบุคคลที่ 3 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อสงสัยว่าน่าจะมีบุคคลที่ 3 ร่วมลงมือสังหารโหดฆ่าเผานั่งยางในครั้งนี้

Advertisement

ขณะที่ตำรวจได้นำตัวนางรุธจิรา คล้ายละมัย มาที่ สภ.บึงนาราง จ.พิจิตร เพื่อสอบสวนเพิ่มเติม เนื่องจากนางรุธจิราให้การเพียงว่าไม่ได้ลงมือฆ่า คนที่ลงมือคือนายอาโมรี ริโก โดยใช้มีดฟันที่ศีรษะนายจูเซปเป้ ส่วนนายอาโมรีก็ให้การซัดทอดว่านางรุธจิราเป็นคนลงมือฆ่า โดยตำรวจแยกห้องขังและแยกสอบปากคำทั้ง 2 คน
ขณะที่ พ.ต.อ.ชัยเสถียร มณีจักร ผกก.สภ.บึงนาราง กล่าวว่า นางรุธจิราให้การอ้างว่านายอาโมรีเป็นคนลงมือฆ่า โดยใช้มีดฟันที่ศีรษะ และนางรุธจิราเป็นคนช่วยยกศพใส่ท้ายรถเก๋ง ก่อนนำศพมาเผานั่งยางในที่เกิดเหตุ ซึ่งคำให้การของนางรุธจิรากับนายอาโมรีไม่ตรงกัน โดยนายอาโมรีอ้างว่ามาเป็นบอดี้การ์ดให้นางรุธจิรา และคนที่ลงมือฆ่าก็คือนางรุธจิรา สาเหตุเกิดจากเรื่องชู้สาว เนื่องจากนายจูเซปเป้ เคยจ้างให้นายอาโมรีเลิกกับนางรุธจิรา เป็นจำนวนเงิน 1 แสนบาท ปรากฏว่าวันเกิดเหตุนางรุธจิราและนายอาโมรีนัดนายจูเซปเป้มาคุยกัน แต่คุยไม่รู้เรื่อง จึงลงมือฆ่าดังกล่าว ขณะนี้ตำรวจได้แยกสอบปากคำทั้ง 2 คน โดยแยกนางรุธจิราไปขังที่ สภ.โพทะเล ส่วนนายอาโมรีอยู่ที่ สภ.บึงนาราง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image