สั่งเอาผิดทั้งวินัย-อาญาตำรวจรถไฟยิงเพื่อนดับ 2 ศพ คาดปมขัดแย้งส่วนตัว

กรณี ร.ต.อ.สมสดี สุทธิประภา อายุ 58 ปี ตำแหน่ง รอง สวป.รฟ.หนองคาย กก.5 บก.รฟ. ใช้ปืนลูกโม่ขนาด .38 ยิง ร.ต.อ.สมชาย สีดายา อายุ 47 ปี รอง สว.ส.รฟ.หนองคาย กก.5 บก.รฟ. และ ร.ต.ท.ชาญชัย ภาคอินทรีย์ อายุ 61 ปี อดีตตำรวจรถไฟเสียชีวิต หลังจากที่ตั้งวงดื่มเหล้ากันตั้งแต่เวลา 14.00 น. แต่ ร.ต.อ.สมสดีออกไปจากบ้านที่เกิดเหตุ เนื่องจากไม่พอใจอะไรสักอย่าง หรือพูดไม่เข้าหูกัน ก่อนจะกลับมาก่อเหตุสลดขึ้นตามที่เสนอข่าวไปนั้น อ่านข่าว ผู้กองปืนดุ! เพื่อนพูดไม่เข้าหู กลับบ้านไปเอาปืน ลั่นไกยิงเพื่อน ตร.ดับ 2 ศพคาวงเหล้า

ความคืบหน้า วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2561 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีตำรวจรถไฟจังหวัดอุดรธานีใช้อาวุธปืนยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิต 2 รายว่า พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ร่วมกับแพทย์ชันสูตรพลิกศพหาสาเหตุการตาย อีกทั้งร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสถานที่เกิดเหตุ

จากการสันนิษฐานสาเหตุที่เกิดครั้งนี้ เบื้องต้นน่าเชื่อว่าเกิดจากความไม่พอใจกัน แต่ยังไม่ทราบว่าจากเรื่องใด โดยพนักงานสอบสวนจะดำเนินการสอบสวนพยานที่เกี่ยวข้องโดยละเอียดอีกครั้ง สำหรับความผิดของที่ผู้ก่อเหตุนั้น มีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กำชับเน้นย้ำข้าราชการตำรวจทุกนายในการพกพาและใช้อาวุธปืนในเวลาราชการและนอกเวลาราชการ โดยให้ถือปฏิบัติตามระเบียบการตำรวจไม่เกี่ยวกับคดี และ พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน มาโดยตลอด ซึ่งการกระทำที่จะสามารถพกพาหรือใช้อาวุธปืนได้ ต้องอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ราชการ ในเขตอำนาจที่ตนรับผิดชอบ หรือได้รับอนุญาตเท่านั้น

Advertisement

ประกอบกับที่ผ่านมามีข้อสั่งการให้ผู้บังคับบัญชาหมั่นสอดส่องดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิดสม่ำเสมอ ซึ่งในเรื่องดังกล่าว มูลเหตุน่าจะเกิดจากเรื่องส่วนตัว เพราะช่วงเวลาเกิดเหตุเป็นเวลาพักผ่อนนอกเวลาราชการ อย่างไรก็ตาม จะต้องสอบสวนเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน โดยจะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image