ตำรวจน้ำชุมพร ได้รับแจ้งจาก Mr.Colin Britiss Citizen อายุ 63 ปี นักท่องเที่ยวสัญชาติอังกฤษ ว่าเมื่อตอนเช้าของวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมาตนและเพื่อนสัญชาติเดียวกันชื่อ Mr.Mikel Smith อายุ 74 ปี ได้นำเรือแคนูแล่นออกไปตระเวนท่องเที่ยวชมเกาะต่างๆ กลางทะเล บริเวณอ่าวทุ่งวัวแล่น ต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร แล้วเพื่อนได้แล่นเรือแคนูหายไป ตอนแรกคิดว่าคงกลับโรงแรมที่พักก่อนแล้ว ปรากฏว่าเมื่อตอนบ่ายของวันนี้ได้ไปแวะหาเพื่อน แต่ยังไม่กลับที่พักและไม่สามารถติดต่อกันได้ คาดว่าจะได้รับอันตรายจมน้ำเสียชีวิตกลางทะเล
ชุดกู้ภัยทางน้ำได้นำเรือสปีดโบ๊ต พร้อมนักประดาน้ำออกระดมค้นหาอย่างเร่งด่วนเนื่องเวลาใกล้ค่ำแล้ว โดยออกตระเวนค้นหานานประมาณ 1 ชั่วโมง จนกระทั่งไปถึงเกาะจระเข้ อยู่ห่างฝั่งประมาณ 7 ไมล์ทะเล ซึ่งเป็นเกาะขนาดเล็กและเป็นโขดหินไม่มีคนอาศัยอยู่ และปกติจะไม่มีใครกล้าเข้าไปพักแรมเนื่องจากช่วงพายุไต้ฝุ่นเกย์จะมีศพลูกเรือประมงที่อับปางลอยขึ้นไปกองอยู่จำนวนมาก ได้พบ Mr.Mikel Smith กางเต็นท์นอนพักแรมอยู่ใต้พุ่มต้นไม้ข้างโขดหินริมเกาะ
โดยลากเรือแคนูขึ้นไปเก็บไว้บนฝั่ง พร้อมกับมีเสบียง อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องยังชีพกองอยู่ใกล้ๆ แต่ไม่มีเครื่องมือสื่อสารที่ติดต่อกันได้ เจ้าหน้าที่ขอให้เดินทางกลับเนื่องจากเพื่อนเป็นห่วง แต่ถูกปฏิเสธไม่ยอมกลับ โดยรับปากว่าจะกลับในตอนเช้าวันนี้(15 ก.พ.61) เจ้าหน้าที่เห็นว่าใกล้มืดค่ำเกรงจะเกิดอันตรายระหว่างเดินทาง จึงให้อยู่บนเกาะดังกล่าวตามความประสงค์ของ Mr.Mikel Smith และช่วงเช้าจะจัดส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบและอำนวยความสะดวกระหว่างแล่นเรือแคนูกลับเข้าฝั่ง
นายวัชรินทร์กล่าวว่า จากการค้นหาพบ Mr.Mikel Smith นำเรือแคนูซึ่งใช้ได้ทั้งพายและกางใบ ขึ้นไปไว้บนฝั่งแล้วกางมุ้งนอนอยู่ทางทิศใต้ของเกาะจระเข้ มีอาหารอุปกรณ์ยังชีพอยู่เพียงพอ และรับปากว่าจะกลับในช่วงเช้า จึงได้ฝากให้ชาวเรือประมงที่จับปลาอยู่ใกล้ๆ เกาะช่วยสอดส่องดูแลไว้แล้ว
ส่วนสาเหตุนั้นคาดว่า Mr.Mikel Smith ตั้งใจจะไปนอนพักแรมบนเกาะ ซึ่งมีเกาะเล็กเกาะน้อยอยู่หลายเกาะบริเวณดังกล่าว แต่เพื่อนไม่ทราบได้แล่นเรือแคนูกลับมาก่อนโดยไม่รู้ว่าเพื่อนจะไปนอนที่เกาะดังกล่าว ทำให้เข้าใจผิดคิดว่าเพื่อนประสบเหตุจมน้ำหรือได้รับอันตราย ทำให้ต้องวุ่นวายกันไปหมด แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเหมือนเป็นการทดสอบความพร้อมของหน่วยงานเกี่ยวข้องให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา
