เวลา 08.00 น. วันที่ 26 ก.พ. ที่บ้านพักของนายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังษี เลขที่ 143/22 ซ.ทุ่งนา 5 ม.3 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยนายปรีชากล่าวถึงกรณีในวันที่ 28 ก.พ.นี้ ทางตำรวจกองปราบปราม โดย ผบ.ตร.จะนำแถลงสรุปคดีหวย 30 ล้านบาท ว่า ตนไม่รู้สึกตื่นเต้นและไม่เครียดเลย เป็นเรื่องปกติและเคยเกิดขึ้นแล้วเมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้แถลงในตอนนั้น ก็คล้ายๆ กัน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้รอให้ถึงวันที่ 28 ก.พ.นี้ หลังจากนั้นจะปรึกษาทนายความอีกครั้ง อีกทั้งตนมีพยานหลักฐานใหม่ที่รอจะเปิดเผยเยอะเลย ซึ่งยิ่งนับวันหลักฐานยิ่งแน่นขึ้น เป็นหลักฐานใหม่ที่ไม่ได้อยู่ในสำนวน แต่ต้องขอปิดไว้ก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีพยานใหม่ที่ อ.บ่อพลอยใช่หรือไม่ นายปรีชากล่าวว่า เรื่องนี้ขอปิดไว้ก่อน ตนยังเชื่อในสิ่งที่ดีงามของตน สิ่งต่างๆ ก็จะปรากฏ คนใน อ.บ่อพลอย คือคนที่อยู่ใกล้ชิดตน พวกเขาก็จะรู้ว่าเป็นคนเช่นไร ส่วนในวันที่ 28 ก.พ.นี้ ตนจะหยุดสอนนักเรียนเพื่อติดตามการแถลงผลของทางกองปราบฯหรือไม่นั้น ตนคงไม่หยุดสอนและจะไปสอนตามปกติ แม้วันที่ 28 ก.พ.นี้ ผลจะออกมาเป็นของ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ ตนก็จะสู้คดีและเข้าสู่กระบวนการของศาลต่อไป
เมื่อถามว่า ในวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา ผบช.ภ.7 เป็นผู้แถลงผลคดีดังกล่าว แต่ในวันที่ 28 ก.พ.นี้ ทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จะเป็นผู้แถลงเองรู้สึกอย่างไร นายปรีชากล่าวว่า ตนรู้สึกดีใจและเชื่อว่าตำรวจทำงานด้วยความยุติธรรมอยู่แล้ว จึงไม่รู้สึกกังวลใจเพราะที่ผ่านมาตนพูดความจริง ส่วนพยานของตนก็ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน ซึ่งพวกเขาก็น่าจะทำงานตามปกติ
ถามอีกว่า เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้พบกับคุณฟ้าหรือไม่ นายปรีชากล่าวว่า ฟ้าซึ่งเป็นเพื่อนของพี่สาว และสอนหนังสืออยู่ที่กรุงเทพฯ ได้เดินทางมาที่บ้านของตน โดยเขาจะมากับพี่สาวของตนอยู่แล้ว ซึ่งมาเที่ยว จ.กาญจนบุรีอยู่เป็นประจำ เพราะ จ.กาญจนบุรีเป็นเมืองน่าเที่ยว แต่ก็ไม่ได้คุยกันถึงเรื่องคดีดังกล่าวเลย และไม่ได้ให้กำลังใจอะไรกันเป็นพิเศษ แต่กำลังใจของตนดีมาก เพราะตนคือของจริง ซื้อจริง ตกจริง หายจริง จะกลัวอะไร
ถามถึงหลักฐานที่บอกว่าเป็นหลักฐานใหม่ว่าเป็นหลักฐานเอกสารหรือบุคคล นายปรีชากล่าวว่า ตนยังไม่อยากพูดถึงหลักฐาน และเรียกได้ว่าเป็นหมัดเด็ดที่สามารถล้มทุกอย่างได้ แต่ตอนนี้ยังไม่อยากพูดถึง เพราะทุกคนก็ต้องการหาสิ่งดีๆ ให้ชีวิตตัวเอง ส่วนถ้าผลออกมาเป็นของ ร.ต.ท.จรูญ และทางตำรวจมีการสั่งฟ้องตนจะมีการฟ้องกลับหรือไม่นั้น เรื่องนี้ตนต้องขอปรึกษาทางทนายความก่อน
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่เมื่อพยานเริ่มกลับคำให้การแล้ว นายปรีชากล่าวว่า รู้ได้ไงว่ากลับคำให้การแล้ว เห็นสำนวนหรอ ใครเห็นสำนวน สื่อจะเห็นสำนวนไม่ได้ ตำรวจเท่านั้นที่เห็นสำนวน
“ในส่วนของคลิปเสียงที่คล้ายครูนั้น ครูไม่กังวลเลย บางส่วนก็มีการสอบไปแล้ว แต่คลิปเสียงที่ออกมามากมายนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็กำลังสอบสวนอยู่ ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังส่งคลิปเสียงไปให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์ ถ้าผลการพิสูจน์ออกมาเป็นยังไง ครูก็ต้องปรึกษาทนายอีกที ส่วนเรื่องการข่มขู่ในเรื่องนี้ตนได้ให้การบ้านไปกับทางทนายแล้ว ว่าจะมีการดำเนินการอย่างไร สิ่งต่างๆ ที่มันเกิดขึ้น สังคมมองทุกอย่างผิดหมดเลย ซึ่งสังคมไม่ผิดหรอก เพราะสังคมได้มองเหรียญด้านเดียว หลังวันที่ 28 ก.พ.นี้ ค่อยว่ากันอีกที ครูมีหลักฐานหมดแล้ว” ครูปรีชากล่าว
เมื่อถามว่า ถ้ามีหมายเรียกหรือหมายจับ ครูจะไม่หนีใช่หรือไม่ นายปรีชากล่าวว่า ตนจะไม่หนีหรอก ไม่รู้ว่าจะหนีไปไหน ตนก็ยินดี เพราะตนเป็นพลเมืองดี อย่างไรก็ตาม ก็ขอร้องสื่ออย่าเพิ่งมอมเมาประชาชน รอให้เจ้าหน้าที่แถลงเสียก่อน ส่วนทางผู้บริหารโรงเรียนก็เข้าใจว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัว
