โจรย่องทุบยาย 84 ปี ชิงทองหนักร่วม 7 บาท หนีลอยนวล

ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และตำรวจเกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบ ความคืบหน้า เกี่ยวกับคดีชิงทรัพย์ กรณี นางมา เกษมสุข อายุ 84 ปี ชาว ต.ศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ถูกคนร้ายเป็นชาย 1 คน สวมหมวกปิดบังใบหน้า เข้าทำร้ายร่างกาย ทุบศีรษะ จนหมดสติ ขณะผู้เสียหาย กำลังปั่นจักรยานสามล้อคนชรา เพื่อเตรียมไปทำบุญที่วัด บริเวณถนนห่างจากหน้าบ้าน ประมาณ 20 เมตร

ก่อนคนร้ายชิงทองรูปพรรณ น้ำหนักรวม 7 บาท และเงินสดอีก 61,000 บาท ที่ใส่กระเป๋าติดตัวไว้ตลอด หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 2 มีนาคม 2561 ภายหลังผู้เสียหาย รู้สึกตัว จึงไปบอกลูกชาย พาไปตรวจรักษาร่างกายที่โรงพยาบาลอำเภอศรีสงคราม และเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ที่ สภ.ศรีสงคราม เร่งติดตามตัวหาคนร้ายมาดำเนินคดี

เบื้องต้นจากการสอบสวน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเป็นเวลาเช้าตรู่ ยังไม่สว่าง บวกกับบริเวณถนน มีไฟส่องสว่างน้อย ซึ่งผู้เสียหายจะตื่นขึ้นมาเพื่อรอไปวัดทำบุญ รวมถึงรอตักบาตร ตามประสาคนแก่ โดยจะชอบนำเอากระเป๋าทรัพย์สิน สร้อยทองคำ รวมถึง เงินสด ที่เก็บสะสมไว้ ติดตัวไว้ตลอด จนกระทั่งช่วงเกิดเหตุ จากรสอบปากคำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่า มีชายรูปร่างสูงใหญ่ สวมชุดดำ มีหมวกปิดบังใบหน้า เดินเข้ามาทางด้านหลังขณะยายผู้เสียหาย กำลังปั่นจักรยานสามล้อ ก่อนใช้อาวุธไม่ทราบชนิดทุบบริเวณศีรษะ จนหมดสติร่วงลงกับพื้น และได้ชิงเอาทรัพย์สินของยายที่เก็บไว้ในกระเป๋า ที่เสียบไว้ในเสื้อด้านใน ก่อนหลบหนีไป โชคดีผู้เสียหาย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

Advertisement

ด้าน นางมา เกษมสุข อายุ 84 ปี เล่าว่า ปกติ ตนจะตื่นแต่เช้าทุกวัน เพื่อปั้นจักรยานสามล้อ ที่ลูกซื้อให้ เพื่อมารอทำบุญตักบาตร ไปวัดใกล้บ้าน ถือเป็นการออกกำลังกายไปด้วย วันเกิดเหตุขณะปั่นจักรยานออกมาจากหน้าบ้านไม่ไกลมาก พบว่ามีชายร่างสูงใหญ่ สวมชุดดำ มีหมวกปิดบังใบหน้า เดินเข้ามาด้านหลัง พอรู้ตัวจึงหันไปมองเห็นว่าเป็นชาย จากนั้นคนร้ายได้ของแข็งทุบเข้าศีรษะด้านขวาจนหมดสติ ฟุบลงกับพื้น

จากนั้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สักพักพอรู้สึกตัวขึ้นมา ตั้งสติได้ นึกได้ว่าถูกทำร้ายแน่นอน และตรวจสอบดูของมีค่าที่ติดตัวไว้ตลอดเวลาออกจากบ้าน เพราะหวงมาก สะสมมาหลายปี มีทองรูปพรรณ รวมหนักประมาณ 7 บาท เงินสดเป็นธนบัตร ชนิด 1,000 บาท รวม 61,000 บาท ใส่ไว้ในกระเป๋า และซ่อนไว้ในเสื้อ หายไป เชื่อว่าคนรายมาดักรอ และฉวยโอกาสที่ไม่มีคนชิงไป พอรู้สึกตัวขึ้นมา ได้พยายามปั่นจักรยานตามไปดู แต่ไม่เห็นและไปบอกลูกชาย และญาติ ก่อนพาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล และแจ้งความตำรวจ

ทางตำรวจจะได้ เร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐาน นำตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน มาตรวจสอบพิมพ์ลายนิ้วมือ หาดีเอ็นเอ เพื่อติดตามตัวหาคนร้ายมาดำเนินคดี ซึ่งทางตำรวจมุ่งไปที่คนในพื้นที่เป็นคนลงมือก่อเหตุ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image