โศกนาฏกรรมครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.10 น.วันที่ 21 มี.ค.ทางตำรวจโรงพักอุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้ง เกิดอุบัติเหตุรถทัวร์ท่องเที่ยว 2 ชั้น หมายเลขทะเบียน 30-016 กาฬสินธุ์ ข้ามเกาะชนกับรถบรรทุก 18 ล้อ บนถนนสาย 304 นครราชสีมา-กบินทร์บุรี บริเวณ หลักกิโลเมตรที่ 242 โค้งลงเขามะกรูดหวาน ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว เป็นเหตุให้รถทั้งสองคันตกลงไปในไหล่ทางชนอัดกับต้นไม้และเพิงร้านค้าริมทางของชาวบ้านสภาพพังยับทั้งสองคันมีผู้โดยสารที่นั่งมากับรถทัวร์ประมาณ 50 คน ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ภายในซากรถและเสียชีวิตจำนวนมาก เจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้ใช้เครื่องตัดถ่างนำร่างผู้บาดเจ็บออกมาจากซากรถและลำเลียงส่งไปรักษาที่ รพ.วังน้ำเขียว ,รพ.ปักธงชัย,รพ.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี,รพ.กรุงเทพราชสีมาและรพ.มหาราชนครราชสีมา อย่างโกลาหล
จากการสอบสวนทราบว่ารถทัวร์นำเที่ยวคันดังกล่าวรับชาวบ้านจากตำบลหลุบและตำบลห้วยโพธิ์ อ.เมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ไปเที่ยวเล่นน้ำทะเลที่จังหวัดจันทบุรีและกำลังเดินทางกลับบ้านพร้อมซื้อของฝากและอาหารทะเลมาเต็มคันรถ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นทางลงเขาและเป็นทางโค้งรถทัวร์เกิดเสียหลักได้พุ่งข้ามเลนไปอัดกับรถบรรทุก 18 ล้อ ที่วิ่งมาจาก จ.นครราชสีมา ส่งผลให้รถทั้งสองคันตกลงไหล่เขาชนกับเพิงพักขายสินค้าของชาวบ้านและต้นไม้พังยับเยินเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมากดังกล่าว โดยเบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตที่โดยสารมากับรถทัวร์นำเที่ยว 18 ราย เป็นชาย 6 คน หญิง 12 ราย และบาดเจ็บ 31 ราย
หลังเกิดเหตุ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวันครราชสีมา พร้อมด้วยพลตำรวจตรี วัชรินทร์ บุญคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และอำนวยการเจ้าหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิต ส่วนสาเหตุขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
เบื้องต้นสันนิษฐานว่า คนขับน่าจะขับรถมาด้วยความเร็ว เมื่อถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้ง รถทัวร์ที่วิ่งมาด้วยความเร็วเกิดควบคุมไม่อยู่ ก่อนจะเสียหลักพุ่งข้ามเลนไปยังถนนอีกฝั่ง แล้วพุ่งชนร้านค้าที่อยู่ริมทาง พลิกคว่ำพังยับเยิน ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตจำนวนมากดังกล่าว
ขณะที่ นางเตือนใจ ชนะศึก ชาวตำบลห้วยโพธิ์ ซึ่งไปทำงานอยู่ในอำเภอวังน้ำเชียว และได้เข้าไปพบ นางเตี้ย ถิ่นประไพ ชาวบ้านหลุบ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ผู้รอดชีวิต เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุนั้นระหว่างที่อยู่บนถนนเขาวังน้ำเชียวขากลับ ขณะที่ทุกคนกำลังสนุกกับการร้องเพลง
เด็กท้ายรถ ได้ตะโกนบอกคนในรถว่า รถบัสโดยสารเบรคแตก ทำให้ทุกคนในรถตกใจหลายคนส่งเสียงร้อง เนื่องจากรถบัสเสียการทรงตัว แต่กคนขับก็ได้พยามควบคุม ซึ่งนางเตี้ย เล่าว่าสิ้นเสียงเด็กท้ายรถตะโกน ยังไม่เกิดอุบัติเหตุในทันที รถก็ยังวิ่งโยกไปมาคาดว่าน่าจะประมาณ 2 กิโลเมตร ก่อนที่รถจะชนเข้ากับเกาะกลางถนนจากนั้นก็ชนเข้ากับรถที่วิ่งสวนมาแล้วก็ไปชนกับแผงลอยข้างทางและชนกับต้นไม้
“ขณะนั้นนางเตี้ย เล่าว่า ตนได้นั่งอยู่ด้านหลัง พอดีเห็นรถพุ่งชนจึงได้มุดหัวลงจากนั้นรถก็ฉีกขาดแล้วก็เหวี่ยงตนออกมาด้านนอก”
ส่วนนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วย นายธนูสินธุ์ ไชยสิริ ปลัดจังหวัดกาฬสินธุ์ นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ นายเอกพงษ์ ศรีโคตร นายกเทศมนตรีตำบลห้วยโพธิ์ เจ้าหน้าที่ คปภ.จังหวัดกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข พร้อมทุกภาคส่วน เข้าไปติดตามสอบถามกับญาติผู้เสียชีวิต โดยไปที่บ้านของนางสมพิศ สุทธิชุม ผู้จัดนำเที่ยว ที่เสียชีวิต ที่บ้านกลางดง ม.10 ต.ห้วยโพธิ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ โดยเฉพาะครอบครัวนี้เสียชีวิตถึง 4 ราย ท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าสลด ที่ส่วนใหญ่ยังทำใจไม่ได้ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายไพโรจน์ วังพิกุล อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89 ม.10 บ้านกลางดง กล่าวว่า ตนเป็นญาติของนางสมพิศซึ่งเป็นผู้จัดนำเที่ยว และทราบข่าวเมื่อคืนนี้จนมารู้ว่าเฉพาะบ้านหลังนี้ เสียชีวิตทั้งหมด 4 คน เป็นสามีของนางสมพิศ นางสมพิศ และหลานอีก 2 คน ตนรู้สึกเสียใจมาก เพราะครอบครัวนี้กำลังดำเนินธุรกิจได้ดี ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็คงต้องรอรับศพ แต่ก็ดีใจที่พ่อเมืองกาฬสินธุ์ไม่ทอดทิ้ง มาช่วยดูแลและให้กำลังใจกันตั้งแต่เช้า
