กรมศิลป์เอาคืน! สั่งรื้อวัดศรีชุมภายใน 60 วันหลังโดนฟ้อง 50 ล้าน

กรณีผู้ใช้เฟสบุ้ค Loy Chunpongtong มีการโพสเรื่องราวกรณีพิพาทระหว่างอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย กับสำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง โดยสำนักสงฆ์ที่ใช้ชื่อว่าศรีชุมใหม่ ได้ยื่นฟ้องร้องต่อศาลแพ่ง เป็นเงินสูงถึง 50 ล้านบาท จากอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย สำนักงานศิลปกรที่ 6 และกรมศิลปากร โดยโจทก์อ้างกรรมสิทธิ์ในพื้นที่ มณฑปพระอจนะ และอุทยานประวัติศาสตร์ ว่ามีรายได้มานานหลายปี ซึ่งวัดอ้างว่ารายได้นั้นควรจะเป็นของวัดศรีชุมใหม่ตั้งแต่แรก

โดยผู้โพสต์ระบุว่า ข่าวใหญ่ครับพี่น้อง ต้องเข้าใจก่อนว่า องค์พระอจนะ แห่งวัดฤาษีชุม ไม่ใช่สมบัติของจังหวัดสุโขทัย ไม่ใช่สมบัติของประเทศไทย แต่เป็นสมบัติของโลก แล้วจะเป็นสมบัติของวัดศรีชุมใหม่ โดยให้หลวงพี่เจ้าอาวาสเกรียงมีอำนาจจัดการได้อย่างไร

ในจารึกสมัยสุโขทัย ชื่อว่า วัดฤาษีชุม ซึ่งต่อมาเพิ้ยนเป็น วัดศรีชุม เมื่อไม่นานนี้ มีการตั้งสำนักสงฆ์ใกล้ ๆ ก่อนจดทะเบียนเป็นวัด ทะลึ่งตั้งชื่อว่า วัดศรีชุม เลียนแบบ มีพื้นที่ติดกัน ทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อน คนหลงประเด็นไปว่า วัดใหม่เป็นเจ้าของวัดเก่า เป็นเจ้าของมรดกโลกซะงั้น ทั้งๆ ที่เป็นคนละวัดกัน

Advertisement

ขณะที่ นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า รู้สึกตกใจที่ทางวัดศรีชุมมาฟ้องเรียกเงินจากกรมศิลป์ถึง 50 ล้านบาท และระบุว่าวัดศรีชุมไม่ใช่วัดเก่า ที่สร้างพร้อมกับโบราณสถานวัดศรีชุม แต่เป็นวัดใหม่ ดังนั้นกรมศิลป์จะดำเนินการตรวจสอบว่าการก่อสร้างวัดศรีชุม ได้มีการขออนุญาตจากกรมศิลปากรหรือไม่ ไปแล้วก่อนหน้านี้

โดยสิ่งที่กรมศิลปากรต้องทำคือชี้แจงข้อเท็จจริงต่อศาล ส่วนตัวไม่หนักใจต่อการฟ้องร้องเรื่องนี้ เนื่องจากวัดศรีชุมใหม่ ที่ฟ้องร้องนั้นเป็นเพียงสำนักสงฆ์ การที่จะมาอ้างว่าพระอจนะ อยู่ในพื้นที่ของวัดเขานั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะมีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยแล้ว อยู่ๆมาบอกว่าเป็นของสำนักสงฆ์ เอาตรรกะไหนมาคิด

“พื้นที่ดังกล่าว กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนตั้งแต่ พ.ศ.2478 และเข้าบูรณะเมื่อ พ.ศ.2490 แล้วสำนักสงฆ์จะมาบอกว่าเป็นของเขาได้อย่างไรกัน อีกทั้งพื้นที่ดังกล่าวเป็นซากโบราณสถาน ไม่มีเจ้าของ กรมศิลปากรจึงไปขึ้นทะเบียนเพื่อเข้าไปดูแล จะไปบอกว่าเป็นของสำนักสงฆ์ได้อย่างไร ยืนยันว่าไม่หนักใจอะไรที่สำนักสงฆ์ฟ้องร้องในเรื่องนี้”

Advertisement

นายดนุสรณ์ สุทธิผล ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าอาวาสวัดศรีชุม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังทางวัดกับกรมศิลป์กลายเป็นข่าวดัง ปรากฏว่ามีการเปลี่ยนแม่กุญแจล็อคประตูเหล็กตรงสะพาน ทำให้พระสงฆ์และชาวบ้านไม่สามารถเดินข้ามเข้าไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่บริเวณมณฑปพระอจนะได้

พร้อมกับมีหนังสือจากอธิบดีกรมศิลปากรมาถึงเจ้าอาวาสวัดศรีชุม เมื่อช่วงเย็นวันที่ 20 มี.ค. 61 แจ้งขอให้รื้อถอนอาคารที่ปลูกสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต ออกจากเขตโบราณสถานภายใน 60 วัน ได้แก่ วิหารหลวงพ่อเพชร กุฏิเจ้าอาวาส ห้องน้ำ เมรุเผาศพ ศาลาพักสงฆ์ ศาลาการเปรียญ ศาลาปู่ฤาษี และอื่นๆรวม 16 รายการ ซึ่งทางวัดก็คงต้องดำเนินการโต้แย้งคำสั่งนี้ และใช้สิทธิ์ยื่นร้องขอเพิกถอนคำสั่งต่อศาลปกครองต่อไป นอกจากนี้ก็จะแจ้งความดำเนินคดีกับกรมศิลป์ในข้อหาบุกรุก และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบอีกด้วย

ด้านคณะกรรมการวัดศรีชุม กล่าวว่า ได้เห็นหนังสือคำสั่งให้รื้อถอนอาคารเสนาสนะภายในวัดแล้ว รู้สึกไม่สบายใจ เพราะทั้งหมดสร้างจากเงินบริจาคของผู้มีจิตศรัทธาเมื่อหลายสิบปีมาแล้ว อยากให้กรมศิลป์หรือรัฐบาลหันมาแก้ปัญหาครั้งนี้ เพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข มีความเป็นเอกภาพ และรักใคร่ ปรองดองกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image