ตำรวจสน.ชนะสงคราม รับแจ้งเหตุชาวต่างชาติถูกแทงเสียชีวิตที่เกสต์เฮาส์แห่งหนึ่ง ชุมชนหลังป้อมพระสุเมรุ ถ.สามเสน แขวงสามเสนใน เขตพระนคร กทม.
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น เปิดเป็นเกสต์เฮ้าส์สำหรับนักท่องเที่ยว ด้านหน้าจัดเป็นบาร์และโต๊ะนั่งเล่นไว้สำหรับนักท่องเที่ยว บนแคร่ไม้พบศพนายลีโอ อเล็กซานเดอร์ อคิลลี อายุ 24 ปี สัญชาติฝรั่งเศส สภาพศพนอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน กางเกงขาสั้นสีน้ำตาล มีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคม 1 แผล ที่บริเวณราวนมด้านซ้าย
จากการสอบสวนน.ส.มาลีนี พรมนัดถ์ อายุ 30 ปี พยาน ให้การว่า นายลีโอเป็นเพื่อนของตนและเป็นนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส โดยรู้จักกันที่เกสต์เฮ้าส์ดังกล่าว โดยก่อนเกิดเหตุตนกำลังนั่งดื่มกินกับเพื่อนที่บาร์หน้าเกสต์เฮ้าส์ ช่วงหัวค่ำ ก็เห็นผู้ก่อเหตุชื่อเป้ พร้อมกับเพื่อนมานั่งดื่มกินอยู่โต๊ะข้างๆ ซึ่งโดยรอบๆก็มีชาวต่างชาตินั่งดื่มกินอยู่ที่โต๊ะอื่นๆด้วย จนเวลาประมาณ ตีสอง บาร์ปิดแล้วแต่ตนยังนั่งดื่มต่อ
น.ส.มาลีนี กล่าวต่อว่า จากนั้น ได้ยินเสียงนายเป้ โต้เถียงเสียงดังกับนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส ทราบชื่อว่าเอสอยู่บนสะพานข้ามคลองบางลำภู ตนและนักท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้จึงไปช่วยแยกทั้งคู่ออกจากกัน ก่อนนายเป้ได้แยกตัวออกไป ต่อมาไม่นานนายเป้กลับมาอีกครั้งพร้อมอาวุธมีด และปรี่เข้ามาหานายเอส แต่นายลีโอที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะหน้าเกสต์เฮ้าส์เห็นเหตุการณ์ก่อน จึงรีบวิ่งเข้าไปห้ามจึงเกิดการชุลมุน และมารู้อีกทีนายลีโอก็ถูกแทงแล้ว ส่วนนายเป้หลังเกิดเหตุได้หลบหนีไป
ด้าน เจ้าของเกสต์เฮาส์ ให้การว่า นายลีโอมาพักที่เกสต์เฮาส์ได้ 5 วันแล้ว ก่อนหน้านี้นายลีโอเคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน มีนิสัยชอบและรักเมืองไทย ถ้ามีเวลาว่างก็จะมาเที่ยวที่ประเทศไทยเป็นประจำ ส่วนนายเป้ เป็นคนไทย มีอาชีพเป็นช่างสัก เพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ โดยจะเดินทางไปมาระหว่างประเทศไทยกับประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นประจำ ก่อนเกิดเหตุนายเอส เดินมาเห็นนายเป้มีท่าทีคล้ายกำลังจะปัสสาวะลงไปในคลองบางลำภู จึงเตือนว่าไม่ควรทำ ก่อนมีการชกต่อยกันขึ้นและแยกย้ายไป จากนั้น นายเป้กลับมาพร้อมมีดซึ่งขณะนั้นนายลีโอ เห็นเหตุการณ์จึงเข้าไปห้ามจนชุลมุน ก่อนที่นายลีโอถูกแทงเสียชีวิตดังกล่าว
ส่วนนายเป้หลังก่อเหตุได้เดินหลบหนีออกไปทางถ.พระอาทิตย์ ก่อนถูกตำรวจจับกุมตัวไว้ได้และนำตัวไปสอบสวนที่สน.ชนะสงคราม เบื้องต้นพนักงานสอบสวนยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำหาข้อเท็จจริง พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดหน้าร้าน ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป