ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านหนองแอกและบ้านอ่างศาลา หลังมีชาวบ้านร้องเรียนถูกขโมยเข้ามาลักต้นมัน ไปขาย หลังราคามันสำประหลังแพง ตอนนี้กิโลกรัมละ 3 บาทกว่า แต่ราคาสินค้าทางการเกษตร ไม่ว่าจะเป็น อ้อย ยางพารา หรือปาล์มน้ำมันกลับตกต่ำ ทำให้เกษตรกร หันมาปลูกมันสำประหลัง แทนอ้อยและพืชผลทางการเกษตรอย่างอื่น
นางสาวพัชราภรณ์ ชาวบ้าน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว พาผู้สื่อข่าวไปที่ไร่มันของตนเอง ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านไปประมาณ 1 กิโลเมตร โดยนางสาวพัชราภรณ์ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ต้องขี่รถจักรยานยนต์ เวียนไปดูต้นมันสำประหลังวันละหลายรอบ เนื่องจากมีคนมาขโมยต้นมันไปขาย ไม่ใช่เฉพาะที่หมู่บ้านนี้เท่านั้นที่ต้นมันหาย แต่ตำบลอื่นๆ ก็ถูกคนมาขโมยต้นมันสำประหลังเหมือนกัน ตนเองจึงต้องขับขี่รถจักรยานยนต์มาเวียนดู ช่วงกลางคืนสามีตนเองก็จะมาดู
ส่วนที่บ้านนายศักดิ์ชาญ เสมาทอง ซึ่งนำต้นมันสำประหลังมากองไว้ที่หน้าบ้านจำนวนมากเพื่อรอการนำไปปลูก แต่ละวันจะมีคนแวะเวียนมาขอซื้อกันอย่างไม่ขาดสาย เรียกได้ว่า ตอนนี้ต้นมันกลายเป็นทองคำ ใครมีต้นมันเหมือนมีลูกสาวสวย ต้องคอยดูแลกันเป็นพิเศษ
ส่วนที่บ้านหนองแอก หมู่ที่ 13 ต.หนองม่วง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ชาวไร่มันต่างเร่งขุดมันออกไปขาย หลังหัวมันสำปะหลัง มีราคาสูง และยังนำต้นมันไปขายได้อีกด้วย ซึ่งชาวไร่มันถือเป็นโชค 2 ชั้น นายพรหาม เจ้าของไร่มันดังกล่าว บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เป็นประวัติศาสตร์ ที่ต้นมันมีราคาสูงมาก ตอนนี้มัดหนึ่ง ตกมัดละ 60 – 70 บาทเลยทีเดียว มัดหนึ่งมีแค่ 20 กว่าต้นเท่านั้น ซึ่งเมื่อก่อนต้นมันขายไม่ได้ ตอนนี้ถึงแม้ว่าต้นมันจะมีราคาสูง แต่ชาวไร่มันส่วนใหญ่ก็ไม่ยอมขายกัน เนื่องจากหัวมันมีราคาดี ชาวไร่จึงต้องการเก็บไว้ปลูกเอก ทำให้มีคนจ้องลักขโมยต้นมันสำประหลังกัน ซึ่งนายพรหามบอกกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อคืนนี้บ้านเพื่อนของตนเองก็ถูกลักต้นมันเช่นเดียวกัน
ขณะที่ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคาหัวมันสำปะหลังสดได้ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดราคาอยู่ที่เฉลี่ยกิโลกรัม (กก.) ละ 3.10-3.20 บาท เพิ่มขึ้น 90.18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่ราคาเฉลี่ยอยู่ที่กก.ละ 1.63 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่สูงสุดในรอบ 10 ปี นับจากปี 2551 และบางพื้นที่ เช่น จังหวัดนครราชสีมา ราคาขยับขึ้นไปสูงถึงกก.ละ 3.30-3.40 บาทด้วย
