จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ AMin Mintra ได้โพสต์ถามในเฟซบุ๊กกลุ่ม ศรีราชา ถึงร่องรอยของรถยนต์คันหนึ่งที่มีรอยขีดข่วนว่าเป็นรอยขีดข่วนใด เนื่องจากเจ้าของรถแจ้งว่าแมวของเจ้าของโพสต์ไปข่วน จึงต้องการให้จ่ายค่าเสียหาย ทำให้มีสมาชิกในกลุ่มดังกล่าวเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ตั้งข้อสังเกตว่าไม่น่าจะเป็นรอยเล็บของแมว
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว ที่บริเวณหมู่บ้านเอื้ออาทร เก้ากิโล ห้องพักเลขที่ 434/2 ตึกที่ 30 ม.3 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พบ น.ส.มินตรา หมอกเพ็ชธ์ อายุ 29 ปี และ น.ส.รัตนา หมอกเพ็ชธ์ อายุ 58 ปี สองแม่ลูกเจ้าของแมว เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 30 พ.ค. สองสามีภรรยาเพื่อนบ้านมาบอกว่าแมวบ้านตนไปข่วนจนทำให้รถเก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นมิราจ สีเขียวเหลือง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เป็นรอย ต้องการให้ชดใช้จ่ายเงินค่าเสียหายเพื่อไปทำสีรถยนต์
น.ส.มินตรา กล่าวต่อว่า เมื่อสอบถามเหตุการณ์ทางเพื่อนบ้านบอกว่าเห็นแมวนั่งอยู่บนฝากระโปรงหน้ารถ จึงเชื่อว่าเป็นเช่นนั้นพร้อมให้ดูภาพที่ “น้องแหววแหวว” แมวของตนนั่งอยู่บนรถ แม่ของตนก็คิดว่าทางเราผิดจริงและไม่อยากมีเรื่อง เพราะทางหมู่บ้านไม่ให้เลี้ยงสัตว์เลี้ยง แม้จะคิดว่ารอยความเสียหายจะดูใหญ่กว่าเล็บแมวก็ตาม ซึ่งทางเจ้าของรถบอกว่าสีรถตัวเองบาง จึงพาไปตามอู่ซ่อมรถต่างๆ ให้ช่วยตีราคาเป็นเงิน 5,000 บาท แต่ต่อรองแล้วเหลือ 3,000 บาท
น.ส.มินตรา กล่าวอีกว่า ตอนนั้นเอะใจว่าทำไมรอยมันดูลึกและใหญ่ จึงไปโพสต์สอบถามความเห็นของชาวเน็ตในกลุ่มเฟซบุ๊กศรีราชา โดยส่วนใหญ่ต่างบอกว่าไม่น่าจะใช่รอยแมวข่วน เพราะแมวปลายเล็บนิดเดียว ไม่สามารถสร้างรอยได้ใหญ่และลึกขนาดนี้ พร้อมแนะนำให้ทางครอบครัวไม่จ่ายเงินและไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานทันทีที่ สภ.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
ต่อมา น.ส.มินตรา ได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊กกลุ่มดังกล่าว เพื่อเป็นอุทาหรณ์ พร้อมระบุว่าคู่กรณีไม่เรียกเก็บค่าเสียหายใดๆ ทั้งสิ้น และไม่ต้องการให้ช่วยเหลือ เพราะทางอู่ที่เขาได้ไปทำสีแจ้งว่าเป็นรอยเล็บหมา
