รวบอดีตสามีฆ่าโหดเผานั่งยางเศรษฐินีสงขลา

จากคดีฆ่าเผานั่งยาง น.ส.ภิญญาดา แป้นจันทร์ หรืออ้อย นักธุรกิจสาวขายตรงและขายประกันชื่อดังเมืองสงขลา ซึ่งถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมและเผานั่งยาง ก่อนที่ญาติจะไปพบชิ้นส่วนกระดูกและแหวนเพชรในป่าพรุ บ้านท่าหอม อ.หาดใหญ่ เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.61 ที่ผ่านมา โดยผู้ก่อเหตุคือนายกฤษฎา ไหมขาว อดีตสามี

ล่าสุดมีรายงานว่า ตำรวจได้จับกุมตัวอดีตสามีได้แล้ว ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการหลบหนี โดยเจ้าตัวรับสารภาพแล้วว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าด้วยการบีบคอผู้ตาย แล้วจับหัวผู้ตายกระแทกกับชั้นวางทีวี โดยเจ้าตัวบอกด้วยว่าไม่ได้ใช้อาวุธทำร้าย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 23 พ.ค. 61 จากนั้นก็ได้นำศพผู้ตายใส่ถุงขยะ แล้วนำศพไปเผาตอนกลางวัน ช่วง 10 โมง แล้วรอจนศพเผาไหม้หมดแล้ว จากนั้นก็ไปทุบกระดูกเพื่อทำลายหลักฐาน

สำหรับสาเหตุที่ต้องฆ่าอดีตภรรยา อดีตสามีอ้างว่าเพราะโกรธที่อดีตภรรยามายืนด่าหน้าบ้าน ว่าเอาเมียน้อยมานอนที่บ้านทำไม เขาจึงโกรธมากจึงลงมือทำร้ายอดีตภรรยา ส่วนรถเบนซ์ที่นำไปด้วย ผู้ต้องหายังไม่ยอมบอกว่าอยู่ที่ไหน นอกจากนี้จากการตรอจสอบยังพบด้วยว่า รถของผู้ตายอีก 2 คันได้หายไปด้วย ซึ่งในเช้าวันนี้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ไปสอบสวนผู้ต้องหาด้วยตัวเอง

Advertisement

ทั้งนี้ พลตำรวจเอกวิระชัย ทรงเมตตา ได้ลงพื้นที่ตรวจจุดเกิดเหตุตั้งแต่เมื่อวานนี้ พบว่ามีชิ้นส่วนหลักฐานสำคัญเพิ่มอีกกว่า 15 ชิ้น โดยมีเจ้าหน้ากองพิสูจน์หลักฐาน และฝ่ายสืบสวนร่วมตรวจสอบ โดยพบว่าจุดเกิดเหตุเป็นป่ารก ทางเข้าเปลี่ยวและมืด ซึ่งจากการคาดการณ์เชื่อว่าคนร้ายไม่น่าก่อเหตุเพียงคนเดียว และใช้เวลาในการเผาผู้ตายไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง

จากนั้นพลตำรวจเอกวิระชัยเดินทางไปตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติมที่บ้านของผู้เสียชีวิต บ้านน้ำกระจาย อ.เมือง จ.สงขลา พบหลักฐานสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการตายและการเผานั่งยาง โดยเฉพาะบังโคลนรถบิ๊กไบค์ ซึ่งยางที่ใช้เผาบางส่วนก็คือยางจากรถบิ๊กไบค์ และหลักฐานสำคัญเกี่ยวกับการฆาตกรรม

ทางด้านเพื่อนบ้านผู้ตายซึ่งมีความสนิทสนมกับนายกฤษฎาผู้ก่อเหตุเล่าว่า หลังเกิดเหตุนายกฤษฎาก็ยังวนเวียนแถวบ้าน โดยไม่มีท่าทีหวาดกลัว หรือตกใจใดๆ ทั้งสิ้น โดยเช้าวันที่ 26 พ.ค. ยังขับรถเบนซ์ของผู้ตายสวนทางกับป้าสุ และยังทักทายกัน จากนั้นไม่ถึง 5 นาที รถตำรวจก็ตามมา และในช่วงค่ำวันเดียวกันก็เห็นนายกฤษฎามาขับรถกระบะไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีไปและไม่กลับมาอีก

Advertisement

เช่นเดียวกับญาติของคุณอ้อยผู้เสียชีวิตเล่าว่า มาจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่อยากเชื่อว่านายกฤษฎาจะเป็นคนฆ่าภรรยาย เพราะโดยนิสัยส่วนตัวไม่มีท่าทางโหดร้าย หรือเป็นคนอารมณ์ร้อน แต่ตรงกันข้ามกลับเป็นคนอารมณ์ดี และมีอัธยาศัยดีกับเพื่อนบ้าน แต่ยอมรับว่าเรื่องมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกับผู้ตายนั่นมีบ่อยครั้ง แต่ก็ไม่คิดว่าถึงขั้นจะต้องฆ่าให้ตายและยังนำไปเผานั่งยางแบบโหดเหี้ยม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image