ณ เวลานี้ไม่มีใครไม่รู้จัก ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ซึ่งทำหน้าที่สมบทบาท เต็มศักยภาพ
ในภารกิจเหตุการณ์ช่วยเหลือทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี่และโค้ช ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย
ในฐานะผู้บัญชาการของทุกหน่วยช่วยเหลือ 13 ชีวิตในถ้ำ
ซึ่งการทำงานเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาคนทั้งประเทศ
เรียกว่าครบเครื่องทั้ง “บู๊” และ “บุ๋น” !
ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้คณะรัฐมนตรีมีมติแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงและผู้ว่าราชการจังหวัด 12 ตำแหน่ง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอมาเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2561
และ 1 ใน 12 มีรายชื่อ “ณรงค์ศักดิ์” คนนี้ จากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา
อย่าลืมว่า “เชียงราย” นั้นเป็นจังหวัดใหญ่ ส่วน “พะเยา” เดิมเป็นเพียงอำเภอหนึ่งของเชียงราย ก่อนแยกตัวตั้งเป็นจังหวัดเล็กๆ
การย้ายจากจังหวัดใหญ่มาจากจังหวัดเล็กเสมือนเป็นการลงโทษ
ถือว่า “ลดเกรด” ตามภาวะเศรษฐกิจของจังหวัด!
แม้รู้ทั้งรู้อยู่เต็มอก แต่ผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์ ยังอดตาหลับขับตานอนทำงานอย่างสมศักดิ์ศรีของข้าราชการไทยจนนาทีสุดท้าย
นี่แหละสปิริตและภาวะผู้นำ !?
แม้รู้ตัวอยู่แล้วว่าถูกย้ายก็ตาม
ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ อธิบายไว้ว่า “การย้ายนั้นเป็นการปรับย้ายตามรอบปกติของกระทรวงมหาดไทยที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ได้หมายความว่า เขาดีหรือไม่ดีอย่างไร
“ผมคิดว่าคนเราถ้าเป็นคนดี ทำที่ไหนก็เจริญ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็เจริญที่นั่น เขาไม่ได้บกพร่องอะไรหรอก เพียงแต่เราต้องการคนที่มีฝีมือไปพัฒนาในพื้นที่ที่ยังไม่มีการพัฒนามากนัก เพื่อให้เขาไปพัฒนา ฉะนั้นเราต้องการคนแบบนี้” นายกฯสรุปทิ้งท้าย
ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เคยให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ไว้ว่า “คุณณรงค์ศักดิ์ เป็นน้ำดีของมหาดไทยและยังเหลืออายุราชการอีกหลายปี เป็นคนที่ต้องมีความเจริญก้าวหน้าอย่างแน่นอน”
เป็นคำปลอบประโลมหรือแก้เกี้ยวก็ไม่ทราบได้!?
แต่สาเหตุการโยกย้ายนั้นว่ากันว่า “ผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์” ไม่ยอมเซ็นอนุมัติมากกว่า 20 โครงการ
ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าที่ไม่เซ็นเพราะมันอาจเข้าข่ายผิดระเบียบ
อาทิ กรณีงบอัดฉีดเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ เพื่อสร้าง “อนุสาวรีย์” บนเกาะกลางแม่น้ำกก เป็น “สัญลักษณ์” ส่งเสริมการท่องเที่ยว ตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
ซึ่งผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์ ให้เหตุผลว่าเกาะกลางลำน้ำกกที่จะสร้างอนุสาวรีย์นั้นเป็นพื้นที่สันดอนทราย รุกล้ำลำน้ำธรรมชาติอย่างชัดเจน
หากเซ็นอนุมัติไปจะกลายเป็นคนเซ็นผิดกฎหมายทันที!
นี่เป็นเพียง “น้ำจิ้ม” ยังมีอีกหลายโครงการวงเงินงบประมาณสูงที่ไม่ได้รับการตอบสนองจากผู้ว่าฯคนนี้
หากโครงการใดที่ส่อไปในทางไม่ถูกต้องตามระเบียบหลักเกณฑ์ ไม่โปร่งใส หรือไม่ชอบมาพากล
จะไม่มีการเซ็นอนุมัติเด็ดขาด!
ซึ่งถือว่าถูกต้องและน่าจะตรงสเปกตามนโยบายรัฐบาล คสช. ที่ประกาศตั้งแต่เข้ามาบริหารประเทศแล้วว่าจะขจัดขุดรากถอนโคนการทุจริตคอร์รับชั่นให้หมดไปมิใช่หรือ?
แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ใช้งานผู้ว่าฯแบบนี้!?!
