ผู้เขียน | ชโลทร |
---|
⦁…ยิ่งนับวันยิ่งได้ข้อสรุปชัดว่า “การใช้อำนาจอย่างกราดเกรี้ยวไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นไม่ว่าจะด้านไหน” อุบัติเหตุทางเรือรุนแรงที่ “ภูเก็ต” ซึ่งส่งผลให้ “นักท่องเที่ยวเสียชีวิตจำนวนมาก” ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศยับเยิน เพราะชัดเจนว่าเป็น “ความห่วยของการบริหารจัดการเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย” เป็น “ความห่วย” ในยุคสมัยที่ “คำสั่งเข้มข้น” ด้วย “รายได้จากการท่องเที่ยว” เป็นปัจจัยเยียวยา “สภาวะเศรษฐกิจ” ให้ “ไม่ให้ประชาชนรู้สึกแห้งโหยจนเกินไป” แต่บัญชาการที่ “เข้มด้วยอารมณ์กร้าว” ไร้ประโยชน์ในทางควบคุมให้เกิดคุณภาพการเอาใจใส่
⦁…รัฐบาลร่ายยาว สร้างความเชื่อว่า “การบริหารแบบเข้มงวด” ใช้ “คำสั่งและอำนาจ” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างได้ผล “ตัวเลขการเติบโตจีดีพี” สูงลิ่วอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน โชว์การตกรางวัลด้วยการ “เพิ่มเงินเดือนให้ข้าราชการ” เลยไปถึง “องค์กรอิสระ” กันคึกคัก ไม่ใช่แค่ “รายได้ในอนาคต” แต่สั่งเพิ่ม “ย้อนหลัง” เป็นโบนัสก้อนใหญ่ คล้ายกับว่า “ผลงานดูแลประชาชนยอดเยี่ยม” พ้นทุกข์ เปี่ยมสุขกันทั่ว ด้วย “ฝีมือและการทุ่มเทของข้าราชการ” ผู้มีอำนาจแถลงข่าวตอกย้ำว่า “เศรษฐกิจดี เศรษฐกิจดี” ฝังเป็นความคิดให้คนทั้งประเทศเชื่อ
⦁…แต่ความจริงไม่เพียงเป็นสิ่งหนีไม่พ้นเท่านั้น แต่ “ประชาชนยุคนี้” ไม่เหมือน “โบราณกาล” ที่ทุกข์ซ้ำซากจน “ไม่รู้จักสุข” ด้วยเคยสัมผัส “ผู้นำชาติ” บอก “เศรษฐกิจดี” ก็เชื่อตามว่าดี โดยไม่ได้นึกไม่ได้คิดอะไร ผิดกับประชาชนปัจจุบัน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้สัมผัส “ชีวิตที่ดีกว่า” มาด้วยตัวเอง ดังนั้นจึงเกิดการเปรียบเทียบ “ชีวิตวันนี้กับชีวิตวันก่อน” และ “รู้ได้ด้วยตัวเอง” การ “จูงความคิด” ด้วย “ศาสตร์โฆษณาชวนเชื่อ” ทั้งหลายที่ใช้ได้ผลใน “โบราณสมัย” จึงใช้ไม่ได้กับ “ยุคนี้”
⦁…ชัดเจนคือ “เกษตรกร” ทุกสาขา ก่อนหน้านั้น “ลืมตาอ้าปากได้” เพราะ “รัฐบาลตระหนักในอำนาจประชาชน” วางนโยบายดูแล “ราคาพืชผลการเกษตรให้เป็น” มายุคนี้ “นโยบาย” ชัดเจน “อะไรขายไม่ได้ก็อย่าปลูก” เมื่อ “ต้นทุนแพง” ก็หาทางลดกันเป็นเรื่องๆ เอาเอง โดย “กลไกทุนนิยม” ที่ “ตลาด” อยู่ในมือพ่อค้าคนกลาง บวกกับ “ค่านิยมพึ่งพาที่เกาะกินชีวิตชาวไร่ชาวนาไทยมาตลอด” ทำให้ต้อง “ยอมจำนน” มี “ทุกข์ก็แค่ทนเอา” เพียงแต่ “ความอดทนวันนี้กับวันก่อน” เพิ่มด้วยบทเรียนอันเกิดจาก
“ชีวิตที่เคยดี” และเรื่องราวทั้งหลายเหล่านี้ จะทดสอบผลกันอีกครั้งในวันเลือกตั้ง
⦁…ช่วงต้นคนบางกลุ่ม อาจจะมีความหวังบ้างว่า “การเมืองไทย” จะพัฒนาสู่ “ความหวังที่ดีขึ้นบ้าง” ไม่ใช่แค่ “ผลัดกันเข้ามาแสวงหาประโยชน์” ด้วยคิดว่า “อำนาจเด็ดขาด” น่าจะจัดการเปลี่ยนแนวโน้มทางการเมืองได้ แต่ถึงวันนี้พิสูจน์เช่นกันว่า “ผลของการให้อำนาจแบบเกรี้ยวกราด” ที่สุดแล้วไม่ทำให้อะไรดีขึ้น หนทางที่จะต่อ “ความหวังเป็นรัฐบาลต่อไปได้” ก็แค่ “รวบรวมนักการเมืองหน้าเดิมๆ เข้ามาเสริมบารมี” พาการเมืองย้อนกลับสู่ “ระบบโควต้า” อันหมายถึงต่างคนต่างไปหา “เก้าอี้รัฐสภา” มา การได้คุม “แหล่งผลประโยชน์” เกรดไหน มากน้อยอย่างไร วันนี้ “พูดถึงจำนวน ส.ส.ที่ก๊กในเหล่า” ชนิดที่ไม่ต้องคิดถึงเรื่อง “คุณภาพนักการเมือง” มาเจือปน
⦁…เปิดสอน “คณะพยาบาล” แต่ตั้งแต่ปี 2560 เข้าปีที่ 3 “นักศึกษารุ่นนั้น” ถึงวันนี้ “ใครจบได้รับปริญญา” จู่ๆ “มหาวิทยาลัยคริสเตียน” ยกเลิกหลักสูตร ด้วยเหตุผลว่า “คณะนี้ไม่ได้รับการรับรองวิทยฐานะ” “ว่าที่บันฑิตเป็นร้อยคน” เคว้ง เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา ความทุ่มเทจาก “วิชาที่หวังได้ว่าน่าจะมีงานทำ” กลับ “สิ้นหวัง ว่างเปล่า” ได้แต่รวมตัวกันมาขอความเห็นใจจาก “ผู้มีอำนาจ” ซึ่งควรจะถามตัวเองว่า “ดูแลการศึกษาของชาติกันแบบไหน” ปล่อยให้ “เปิดสอนจนเยาวชนของชาติเดือดร้อนกันแบบนี้ได้อย่างไร”
⦁…“การบริหารท้องถิ่น” ที่ใช้ “การเลือกตั้ง” กดดันให้ “นักการเมืองท้องถิ่น” ต้อง “รู้ร้อนรู้หนาว” ต่อความเดือดร้อนของประชาชน แต่เพราะความเชื่อมั่นว่า “อำนาจเข้มข้น” สั่ง “นกเป็นไม้ ไม้เป็นนก” ได้ จะทำให้ “ผู้บริหารท้องถิ่นเกรงกลัว” จน “ไม่กล้าละเลยต่อทุกข์สุขประชาน” ถึงวันนี้เวลาพิสูจน์ให้เห็นชัดแล้วว่า “การให้ผู้บริหารท้องถิ่นชุดเก่ารักษาการแบบรากงอก” เพราะ “ไม่ต้องการให้มีการเลือกตั้ง” สร้างอารมณ์ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ ถ้า “ผู้มีอำนาจ” อยากเห็นว่า “อารมณ์อย่างที่ว่าเป็นอย่างไร” ให้ไปดู “ชีวิตของชาวบ้าน เลยไปถึงพระสงฆ์องค์เจ้า” ที่ “เกาะลอย อำเภอศรีราชา ชลบุรี” เทียบกับ “ท่าทีของผู้บริหารท้องถิ่น” ที่นั่น
ชโลทร