เดินหน้าชน : ดีล ‘ดับไฟใต้’ : โดย เสกสรรค์ กิตติทวีสิน

การเจรจาพูดคุยสันติสุขดับ “ไฟใต้” กับกลุ่มผู้เห็นต่าง ในนาม “มาราปาตานี” ระหว่างนี้อาจต้อง “รอ” ไปอีกพอสมควร เพราะทราบกันดีแล้วว่า รัฐบาลมาเลเซียของ มหาธีร์ โมฮัมหมัด กำลังเร่งกวาดล้าง ถูบ้านให้สะอาดปราศจากคอร์รัปชั่น ขณะที่รัฐบาลไทยกำลังจะมีการเลือกตั้งใหญ่รออยู่ในปีหน้า จะต้นปีหรือเลยกลางปี ยังไม่มีใครให้คำตอบแน่ชัดได้

ยังมีเรื่องของการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารระดับแม่ทัพนายกองในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ที่นอกจาก ผบ. 3 เหล่าทัพจะนัดเกษียณพร้อมกันแล้ว พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาค 4 ที่มีบทบาทสูงในระดับพื้นที่ในการเปิดโครงการพาคนกลับบ้านแบบถึงลูกถึงคน จะครบดีลเกษียณเดือนตุลาคมนี้พอดี

การตั้งแม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่เข้ามา ก็ต้องมีการจัดวางบุคคลในบางตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการเจรจาสันติสุขระดับพื้นที่ไปด้วย

ล่าสุดมีกระแสข่าวหนาหูจากเพื่อนบ้านว่า การกวาดล้างบุคคลที่ใกล้ชิดกับอดีต นายกฯ นาจิบ ราซัค นั้น ทางปู่มหาธีร์อาจจะเหมารวมไปถึง “ดาโต๊ะ สรี อาหมัด ซัม ซามิน อาซิม” อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองมาเลเซีย ให้พ้นจากตำแหน่งผู้อำนวยความสะดวกสำหรับกระบวนการพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปด้วย

Advertisement

ดาโต๊ะ สรี เข้ามาทำหน้าที่ผู้อำนวยความสะดวกตั้งแต่มาเลเซียเข้ามาเป็นโซ่คล้องกลางระหว่างรัฐบาลไทย สมัย นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับกลุ่มมาราปาตานี

ปู่มหาธีร์จึงน่าจะตั้งคนของตัวเองที่ไว้วางใจเข้าไปดูแลในส่วนนี้ด้วย เชื่อว่าจะต่อติดในการทำหน้าที่ เพราะตัวปู่มหาธีร์เองก็เคยอยู่ในวงจรการร่วมแก้ปัญหาดับไฟใต้ตั้งแต่สมัยเป็นนายกฯ หนก่อนอยู่แล้ว

ทำให้มองกันว่า การเปิดหน้าคุยกันระหว่างตัวแทนรัฐบาลไทยกับกลุ่มเห็นต่างที่มาเลเซีย น่าจะมีขึ้นอย่างเป็นทางการหลังมีการเลือกตั้งใหญ่ในประเทศไทย เพราะช่วงเวลาที่เหลืออยู่นี้ ถนนทุกสายกำลังมุ่งหน้าไปสู่การปลดล็อกให้พรรคการเมืองได้ทำกิจกรรมการเลือกตั้ง และการจัดเลือกตั้งระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่กำลังนับหนึ่งใหม่ก็จะเกิดขึ้นในเร็ววัน ดังนั้น กิจการภายในของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงยังอัดแน่นเกินกว่าที่จะมีการตั้งโต๊ะคุยที่มาเลเซีย

Advertisement

ขณะที่ พล.อ.อักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็กล่าวถึงกระแสปลดผู้อำนวยความสะดวกฯ ของทางมาเลเซียว่า ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง หากยังไม่มีการประกาศอะไรออกมาเป็นทางการ ล่าสุดก็มีการพูดคุยกับผู้อำนวยความสะดวกฯได้คำตอบว่าก็อยู่ระหว่างรอคิวเข้าพบนายกฯมาเลเซีย

แต่การเปลี่ยนแปลงตัวบุคคลของมาเลเซียนั้น จะไม่กระทบหรือเป็นอุปสรรคใดๆ ต่อการเดินหน้าเจรจาสันติสุข เพราะลำดับขั้นตอนการพัฒนาการพูดคุยมีอย่างต่อเนื่องในระดับเจรจาลับ ที่สำคัญ พล.อ.อักษราแจ้งว่า กระบวนการพูดคุยได้บรรลุวัตถุประสงค์ในปี 2561 มีการกำหนดพื้นที่ปลอดภัยนำร่องที่อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส เป็นผลสำเร็จไปแล้ว

ทุกอย่างยังอยู่ในกติกาที่วางร่วมกัน โดยเฉพาะในพื้นที่นี้ยังไม่มีเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงในพื้นที่

แนวโน้มที่ดีเช่นนี้ เท่ากับกลุ่มเห็นต่างตอบรับการเจรจาสันติสุขไปแล้วส่วนหนึ่ง เมื่อเจาะไอร้องกลับมาร่มเย็นอีกครั้ง จะมีการนำร่องไปยังอำเภอพื้นที่โซนสีแดงต่อไป เป็นการใช้พื้นที่ให้เกิดความสงบสยบความเคลื่อนไหวในเหตุการณ์ก่อการไม่สงบให้ลดน้อยลงไป

ส่วนการที่มาเลเซียค่อยเป็นค่อยไปกับการเจรจาสันติสุข ทั้งที่มหาธีร์ชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทลายมาตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา หากมีความพร้อมเมื่อไหร่ การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นน่าเป็นเรื่องของกลุ่มบุคคลที่ก่อการแล้วหลบหนีไปอยู่ที่มาเลเซียมากกว่า เพราะการที่รัฐบาลมาเลเซียแสดงการสนับสนุนบทบาทของไทยในการดับไฟใต้ครั้งนี้ที่คาดว่าจะมีมากขึ้นเป็นลำดับ เท่ากับร่นพื้นที่ของกลุ่มเห็นต่างเหล่านี้ให้แคบลง เพื่อกลับมาร่วมมือกับรัฐบาลไทยในการยุติเหตุการณ์ความไม่สงบ

เป็นสิ่งที่รัฐบาลไทยอยากให้เกิดขึ้นในเร็ววัน

เสกสรรค์ กิตติทวีสิน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image