น.3คอลัมน์ : กลยุทธ์ การศึก บั่นทอน กำลัง เพื่อไทย ก่อน ‘เลือกตั้ง’

หากประเมินผ่าน หมายหมายเลข 5 ต่อ นายทักษิณ ชินวัตร และการเตรียมฟ้อง นายพานทองแท้ ชินวัตร ในคดีกรุงไทย ประสานเข้ากับ “พลังดูด” อันเข้มข้น

ก็จะตระหนักในความรุนแรงของ “สงคราม”

สงครามอันก่อรูปขึ้นตั้งแต่ก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 มายังรัฐประหารในเดือนพฤษภาคม 2557 ยังดำเนินมาต่อเนื่อง

โดยมีเป้าหมายเฉพาะหน้าอยู่ที่ “การเลือกตั้ง”

Advertisement

ไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งภายในเดือนกุมภาพันธ์ ไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งภายในเดือนพฤษภาคม 2560 สงครามก็ต้องดำเนินต่อไป

กลยุทธ์อาจ “บั่นทอน” กำลัง ตีเข้าไปในแต่ละส่วน

ทั้งหมดนี้ก็เพื่อบรรลุยุทธศาสตร์ใหญ่ ทำลายล้างปรปักษ์ที่กำหนดไว้ตั้งแต่ก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ให้แหลกละเอียด

มิให้รัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 เสียของ

คําว่า “เสียของ” ที่เกิดจากรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 อันนิยามโดยรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 กำหนดจากเงื่อนไขอะไร

ตอบได้เลยว่า จากเงื่อนไข “เลือกตั้ง”

เพราะว่าชัยชนะของพรรคพลังประชาชนในการเลือกตั้งเดือนธันวาคม 2550 เพราะว่าชัยชนะของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งเดือนกรกฎาคม 2554

เท่ากับเป็นรูปธรรมของการ “เสียของ”

เมื่อรัฐประหารแล้วจึงมีความจำเป็นต้องฉีกรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ทิ้ง เพราะว่าไม่สามารถทำให้บรรลุเป้าหมายได้

จำเป็นต้องมีรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาแทนที่

ขณะเดียวกัน ก็มีความจำเป็นต้องตระเตรียมและวางรากฐานความพร้อมในทางการเมืองยาวนานถึง 4 ปี ดำเนินสงครามยืดเยื้อ บั่นทอน “กำลัง” ของปรปักษ์อย่างรอบด้าน

พร้อมเมื่อใดจึงจะ “เลือกตั้ง”

บทบาทและความหมายของ “ความพร้อม” ในที่นี้ 1 หมายถึงการพังทลายลงเป็นลำดับของปรปักษ์ ในที่นี้หมายถึงพรรคเพื่อไทย

จึงต้องถ่วง หน่วง เวลาของ “การปลดล็อก” ให้นานที่สุด

พร้อมกันนั้น นอกจากด้าน 1 คสช.สร้างผลงาน “ประชารัฐ” ให้เกิดการยอมรับพร้อมกับการทุ่มเงินงบประมาณจำนวนมหาศาล

ด้าน 1 ต้องดูด และสูบเอาอดีต ส.ส.ออกจากพรรคเพื่อไทยให้ได้

การออกหมายหมายเลข 5 จึงจำเป็น การรื้อฟื้นคดีกรุงไทยเพื่อดำเนินการทางศาล จึงจำเป็นเพราะเท่ากับตัดแขนขาของผู้ที่อยู่เบื้องหลังพรรคเพื่อไทย

ตีให้น่วม ฟาดให้ระบม

เพราะมีแต่ต้องเปิดปฏิบัติการเช่นนี้เท่านั้นจึงจะสร้างความหวาดกลัว ระส่ำระส่ายและเกิดการแยกตัวออกมาในลักษณะหนีทัพ

การรวบรวมทหารหนีทัพจากพรรคเพื่อไทยจึงจำเป็น

ความไม่ชัดเจน ความไม่แน่นอนของกำหนดเวลาของ “การเลือกตั้ง” จึงนับว่าเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งจากสมองก้อนโตของ “พลังดูด”

นี่จึงเป็นระยะเวลาแห่งการทดสอบต่อพรรคเพื่อไทย

ที่เชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยยังแข็งแกร่ง ที่เชื่อมั่นว่าประชาชนยังให้การสนับสนุน และพรรคเพื่อไทยจะยังเป็นพรรคอันดับ 1 ยังจะดำรงคงอยู่อีกหรือไม่

เพราะนี่คือ “สงคราม” และเป็นสงคราม “ยืดเยื้อ”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image