นโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) หลังจากตั้งไข่เมื่อกลางปี 2559 โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ นั่งเป็นประธานบอร์ด “อีอีซี” และไฟเขียว 8 แผนปฏิบัติการ เริ่มทยอยเดินหน้าแล้ว
ประกอบด้วย 1.แผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 2.แผนการพัฒนา 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย 3.แผนการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยว 4.การพัฒนาศูนย์กลางธุรกิจและศูนย์กลางการเงิน
5.แผนการพัฒนาบุคลากร การศึกษา วิจัย และเทคโนโลยี 6.แผนการพัฒนาเมืองใหม่และชุมชน 7.แผนการประชาสัมพันธ์ และสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการดำเนินโครงการ และ 8.แผนการพัฒนาด้านการเกษตร ชลประทาน และสิ่งแวดล้อม ในแต่ละแผนปฏิบัติ จะผลักดันโครงการเร่งด่วนก่อน อย่างแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เริ่มลุยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซีไอ) และการพัฒนาเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (อีอีซีดี)
หรืออย่างโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มูลค่ากว่า 2.24 แสนล้านบาท ที่มีเอกชนมากถึง 31 ราย มาซื้อซองเอกสารประกวดราคา และเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ให้เอกชนที่ซื้อซองรับฟังคำชี้แจง จากนั้นวันที่ 24-26 กรกฎาคม เปิดให้ซักถามข้อสงสัยต่างๆ
รวมทั้งพาลงพื้นที่เพื่อชมสถานที่ก่อสร้างโครงการ เช่น การก่อสร้างร่วมกับโครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต การจัดการพื้นที่ของสถานีกลางบางซื่อ ที่จะรองรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน
จากนั้นจะเปิดให้ยื่นซองประกวดราคาในวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้ คาดว่าจะได้ผู้ชนะประมูลและลงนามสัญญาได้ในเดือนมกราคม 2562
ส่วนโครงการพัฒนาท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3 เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา ก็เปิดรับฟังความคิดเห็นนักลงทุน (มาร์เก็ต ซาวดิ้ง) ครั้งที่ 2 เพื่อให้รายละเอียดถึงการศึกษาโครงการ วิเคราะห์ และให้คำปรึกษาในการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมทุน
จากนั้นจะเปิดครั้งที่ 3 ในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อรับฟังความคิดเห็นของนักลงทุน เป้าหมายในเรื่องข้อกำหนดสำคัญในการคัดเลือกเอกชน เพื่อนำไปสู่การออกทีโออาร์ในเดือนกันยายน คาดว่าจะได้ผู้ชนะประมูลและลงนามสัญญาได้ในเดือนมกราคม 2562
โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 จัดทำมาร์เก็ต ซาวดิ้ง ครั้งที่ 1 เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา คาดว่าจะออกทีโออาร์ในเดือนสิงหาคมนี้ และลงนามสัญญากับผู้ชนะได้ในเดือนมกราคม 2562
เช่นเดียวกับโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาเป็นเมืองการบินภาคตะวันออก จัดทำมาร์เก็ต ซาวดิ้ง ครั้งแรก เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา คาดว่าจะออกทีโออาร์ได้ในเดือนตุลาคมนี้ และลงนามสัญญากับผู้ชนะการประมูลในเดือนมีนาคม 2562
ขณะที่โครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา (MRO) ทางบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท แอร์บัส ได้ลงนามข้อตกลงการร่วมทุนเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ที่สำนักงานใหญ่ของแอร์บัส ณ เมืองตูลูส ประเทศฝรั่งเศส โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ร่วมเป็นสักขีพยาน คาดว่าจะออกทีโออาร์ในเดือนสิงหาคมนี้ ก่อนลงนามในสัญญาในเดือนธันวาคมปีนี้
ส่วนแผนการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ “อีอีซี” จัดประชุมกลุ่มย่อยเพื่อรับฟังความคิดเห็นในพื้นที่ 3 จังหวัดเป็นระยะๆ โดยมีโครงการสำคัญ เช่น โครงการจัดตั้งสถาบันพัฒนาบุคลากรทางการท่องเที่ยว และศูนย์การศึกษาด้านการท่องเที่ยว
ส่วนแผนพัฒนาบุคลากร การศึกษา วิจัย และเทคโนโลยี ครม.มีมติเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา เห็นชอบงบกลาง 390 ล้านบาท เพื่อพัฒนาบุคลากร การวิจัย และเทคโนโลยี ใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย
โครงการหลักต่างๆ จะประกาศทีโออาร์ในสิ้นปีนี้ และจะลงนามในสัญญาในเดือนมกราคม 2562 เพื่อขับเคลื่อน “อีอีซี” ไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้